Tag Archives: ประโยชน์

10 ประโยชน์ของ น้ำขิง-มะนาว สุดยอดน้ำสมุนไพรตอนเช้า พร้อมวิธีทำ และใครที่ไม่ควรดื่ม

13427831_1089273074480192_6764030660409247379_n

1. บรรเทาอาการเจ็บคอ
อาชีพที่ต้องใช้เสียงในการทำงาน อาจเจ็บคอบ่อย จิบน้ำขิงมะนาว Encyclopedia of Herbal Medicine บอกว่า น้ำขิงมะนาวมีคุณสมบัติบรรเทาอาการเจ็บคอ มะนาวช่วยให้ร่างกายกระตุ้นน้ำลาย ขิงช่วยลดการติดเชื้อในลำคอ

2. ดีท็อกซ์สารพิษตกค้างในร่างกาย
จิบน้ำขิงมะนาวทุกเช้าช่วยให้ร่างกายได้ดีท็อกซ์สารพิษที่ตกค้างอยู่ในตับ และช่วยให้ระบบไหลเวียนน้ำเหลืองทำงานเป็นปกติ

3. บรรเทาหวัด
น้ำขิงมะนาวช่วยป้องกันโรคหวัดได้ มะนาวมีวิตามินซีสูง ช่วยลดการสะสมเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ ความเผ็ดร้อนจากขิงช่วยให้ร่างกายขับเหงื่อมากขึ้น บรรเทาอุณหภูมิความร้อนในร่างกายให้ลดลง จิบน้ำขิงมะนาวอุ่น ๆ ทุกวันจะช่วยบรรเทาหวัด

4. ชะลอความเสื่อมของเซลล์
ขิงกับมะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระ อุดมด้วยวิตามินซี วิตามินบี ป้องกันเซลล์ผิวถูกทำร้าย มีแร่ธาตุดีๆ อาทิ ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ช่วยบำรุงกระดูก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ยังบำรุงต่อมหมวกไต

5. ช่วยระบบย่อยอาหาร
ผู้ที่อาหารไม่ย่อยเป็นประจำ ให้จิบน้ำขิงมะนาวในตอนเช้า น้ำขิงมะนาวจะช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้น เวลากินอาหารในมื้อถัดไป จะไม่รู้สึกอึดอัดท้อง ลดอาการท้องอืด

6. ช่วยลดน้ำหนัก
ผลการวิจัยจาก Clinical Biochemistry and Nutrition ประเทศญี่ปุ่น บอกว่า การจิบน้ำขิงมะนาวอย่างน้อยวันละครั้งจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเอนไซม์ Acyl-CoA oxidase ออกมามากขึ้น ดึงเอาไขมันที่ถูกสะสมไว้มาเผาผลาญเป็นพลังงาน โดยไขมันที่ถูกเผาผลาญจะขับออกในรูปของปัสสาวะ

7. ช่วยบำรุงผิวพรรณ
จิบน้ำขิงมะนาวแทนชา กาแฟ จะทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง สดใส เพราะน้ำขิงมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกสารอนุมูลอิสระทำร้าย กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอีกด้วย Continue reading

54 ประโยชน์จากเบกกิ้งโซดา

 

Screen Shot 2559-02-21 at 11.05.47 PM

แก้เจ็บคอ

ผสมเบคกิ้งโซดาครึ่งช้อนชาลงในน้ำเปล่า ใช้กลั้วคอทุกๆ 4 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการเจ็บคออันเกิดจากกรด รวมทั้งยังช่วยรักษาแผลในช่องปากได้อีกด้วย…

ดับกลิ่นปาก?
สูตร 1 ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะ ในน้ำ 1 แก้ว ดับกลิ่นหอมกลิ่นกระเทียมได้ ถ้าใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 1 แก้ว และผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากได้

ขัดฟันให้ขาว?
นำเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชาผสมน้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา ใช้แปรงสีฟันจุ่มแล้วขัดฟันเบาๆ บ้วนน้ำเปล่าจนสะอาด คราบชากาแฟจะหายไป

สครับขัดหน้า?
สูตร 1 เอาเบคกิ้งโซดา 3 ส่วน น้ำเปล่า 1 ส่วน ผสมกันให้ได้เปียกๆแล้วขัดหน้าเบาๆหน้าจะสะอาดดีค่ะ

สครับขัดผิว?
เบคกิ้งโซดาครึ่งถ้วย เกลือครึ่งถ้วย มะนาว 1 ลูก น้ำมันทาผิว 2 ช้อนโต๊ะ เอาผสมกันก่อนจะใช้แล้วก็เอามาขัดผิวระหว่างอาบน้ำค่ะ

สปาเท้า?
เบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วย เกลือทะเล 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมินต์ และน้ำอุ่นใส่ในกะละมังแช่เท้า แช่แล้วสบายเท้าดี จะช่วยฆ่าเชื้อโรค ดับกลิ่นเท้า รวมทั้งความร้อนจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้าได้อีกด้วย

บรรเทาอาการผิวไหม้แดด?
ผสมเบคกิ้งโซดาลงในน้ำอุ่นสำหรับอาบ จะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนที่เกิดจากผิวไหม้แดดได้

แช่น้ำอุ่น ?
หากคุณอยากผ่อนคลาย เบกกิ้งโซดาก็สามารถช่วยได้เช่นกัน โดยคุณเพียงแค่ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปในน้ำอุ่นที่คุณจะแช่ตัว เท่านี้ก็จะเหมือนพักผ่อนอยู่ในสปาเลยทีเดียว

ทำความสะอาดเส้นผม
ผสมเบกกิ้งโซดาหนึ่งช้อนชาเข้ากับแชมพูสระผมตามปกติของคุณ เพื่อช่วยขจัดสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์แต่งผม (วิธีนี้จะดีเป็นพิเศษกับผมเส้นเล็ก)

ช่วยทำให้หนังหุ้มเล็บนุ่มขึ้น
เติมเบกกิ้งโซดาประมาณหนึ่งหยิบมือลงในชามน้ำอุ่น แล้วแช่มือไว้ในนั้นเป็นเวลาสองสามนาที ก่อนจะล้างน้ำให้สะอาด ก็จะช่วยให้หนังหุ้มเล็บนุ่มขึ้นได้

ฮ่องกงฟุต?
อาการคันตามง่ามเท้าเพราะติดเชื้อราหรือที่เราเรียกว ่า ฮ่องกงฟุต อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ยารักษาเชื้อราในบ้านบางทีคุณอาจมียารักษาเชื้อราอยู ่แล้วคือ เบคกิ้งโซดา สามารถลดอาการคันและแสบร้อนตามง่ามนิ้วเท้า ใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำพอให้เหนียวๆ แล้วนำมาทาที่เท้า จากนั้นล้างเท้าและเช็ดให้แห้ง ปิดท้ายด้วยการทาแป้งข้าวโพดบริเวณที่คัน ยาตำรับต่อไปนี้แม้ว่าจะฟังดูแปลกสักหน่อย แต่ล้วนได้รับคำรับรองจากผู้ที่ทดลองใช้มาแล้วว่าได้ ผลชะงัด ได้แก่ แอลกอฮอล์เช็ดแผล น้ำส้มไซเดอร์หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (apple cider vinegar) ผงกระเทียม สเปรย์ใส่ผม และน้ำผึ้ง ให้คุณเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ทาวันละ 3-4 ครั้ง

บรรเทาอาการลมพิษ?
วิธีคือ ใช้ผงเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำ 2-3 หยดพอให้เป็นแป้งเปียก ทาบริเวณผื่นเพื่อลดการระคายเคืองและแก้คัน

ยาลดกรด ??
ใครที่เกิดอาการแน่นท้องไม่ต้องไปซื้อยาแพงๆให้เปลือง เพราะคุณสามารถจัดการเองได้ง่ายๆ ด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่าธรรมดา ๆ อย่างละครึ่งถ้วยนี่แหละ

น้ำยาล้างสารพิษจากผักและผลไม้?
นำเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 10 ลิตร แช่ผักผลไม้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง สามารถลดสารพิษได้ 90%

น้ำยาล้างคราบในกาน้ำชาที่เป็นโลหะ?
ใส่น้ำลงในกาน้ำชาแล้วเติมเบคกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก ต้มราวๆ 15 นาที ขัดและล้างจะสะอาดง่าย

ครีมลบรอยขูดขีดเครื่องครัว?
ละลายเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 1 ลิตร ทำความสะอาดเครื่องครััวที่ทำด้วยฟอร์ไมก้า สเตนเลส พลาสติก โครเมี่ยม (ยกเว้นอะลูมิเนียม) ริ้วรอยจะเลือนหายไป

น้ำยาทำความสะอาดเตาไมโครเวฟ?
นำเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 1 ลิตร นำผ้ามาชุบแล้วเช็ดทำความสะอาดภายใน คราบสกปรกจะเช็ดออกง่าย
หมักหมูนุ่ม ใส่นิดเดียวค่ะ หมักหมูก็จะนุ่ม ถ้าใส่มากเกินจะมีกลิ่นสารเคมี

ดับไฟในกะทะ?
ในกรณีที่มีน้ำมันกระเด็นติดไฟนิดๆขณะทำอาหาร หรือว่าไฟติดในกะทะ อย่าเทน้ำลงไป เพราะว่าการเทน้ำลงไปบนน้ำมันที่ร้อนๆอยู่จะทำให้ไฟลกมากขึ้นเนื่องจากน้ำมันกระจาย ให้ใช้เบคกิ้งโซดาค่ะ แห้งๆนั่นแหละ เทลงไปตรงๆเบกกิ้งโซดาพอโดนความร้อนมันจะปล่อยคาร์บอ นไดออกไซด์ออกมาช่วยทำให้ไฟลดน้อยลงได้ค่ะ

ทำเค้กให้ฟูนุ่มน่ากิน?
ก็ต้องมีเบคกิ้งโซดาเป็นส่วนผสม
ถ้าอยากได้ไข่เจียวฟูหอมอร่อยน่ากิน?ก็ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปครึ่งช้อนชาต่อไข่ 3 ฟอง ก็จะทำให้ไข่เจียวดูฟูน่ากินทันตาเห็น

เวลาที่ถูกแมลงต่อย?
คุณก็สามารถใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำทาบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้เช่นกัน

ดับกลิ่นอับในตู้เย็น
เบคกิ้งโซดาจะดูดกลิ่นอับในตู้เย็น หากคุณนำไปใช้ดูดกลิ่นในตู้เย็น ให้เปิดฝากล่องด้านบนออกให้หมด หรือเทใส่ถ้วย ทิ้งไว้ด้านในสุดของตู้แล้วคอยเปลี่ยนทุก 3 เดือน

ขจัดคราบไขมัน ที่ติดรอบท่ออ่างล้างจาน?
ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ จะเป็นเหตุให้ท่ออุดตันได้ มีวิธีทำคือ นำเกลือแกงใส่ลงไปในท่อ 2-3 ช้อน จากนั้นนำเบคกิ้งโซดา ไปต้มกับน้ำให้ เดือดแล้วเทลงไปไขมันที่อุดตัน ก็จะหลุดออกไปหมด

ปัญหาเรื่องท่ออุดตันด้วยคราบไขมันในอ่างล้าง?
ให้โรยเกลือรอบๆ ขอบท่อ จากนั้นนำน้ำยาเบคกิ้งโซดา 10 ช้อนโต๊ะผสมน้ำร้อนๆ 1 ขวดลิตร ค่อยๆ เทลงไป เกลือและน้ำยาจะช่วยให้คราบไขมันหลุดออกง่ายขึ้น และทำซ้ำอีก 2-3 รอบ ตามด้วยน้ำเปล่าปิดท้าย หากคราบยังไม่ยอมออกก็คงต้องพึ่งช่างแล้วค่ะ

ทำความสะอาดเขียง?
ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำทำความสะอาดเขียง จะช่วยทำให้เขียงหมดกลิ่นคาว

หากครัวของคุณเต็มไปด้วยคราบมัน?
การใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูอย่างละ 1 ถ้วยเช็ดสามารถช่วยขจัดคราบเหล่านั้นให้คุณได้

ขจัดกลิ่นเหม็นสาปที่ติดอยู่ภายในกระติกน้ำแข็ง?
นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำร้อน แล้วนำมาล้างถูภายในกระติกน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำอีกครั้งกลิ่นเหม็นสาปก็จะหายไป

น้ำยาล้างคราบในกาน้ำชาที่เป็นโลหะ?
ใส่น้ำลงในกาน้ำชาแล้วเติมเบกกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก ต้มราวๆ 15 นาที ขัดและล้างจะสะอาดง่าย

น้ำยาทำความสะอาดเครื่องสุขภัณฑ์
เทเบคกิ้งโซดา 1/2 กล่องลงในถังนำหลังชักโครก ทิ้งไว้ 1 คืนแล้วค่อยกดชักโครก

น้ำยาดับกลิ่นพรม?
ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยกับแป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย หยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นโปรดลงไป 15 หยด ใส่ขวดสเปรย์ฉีดบนพื้นพรมก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้า กลิ่นพรมจะสะอาดสดชื่น

น้ำยาซักผ้าขาวสะอาด?
สูตร 1. ใส่ผงเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วนในเครื่องซักผ้าพร้อมกับน้ำยาซักผ้า จะทำให้ผ้าขาวและสีจะสดขึ้น

สูตร 2. ใช้ตอนซักผ้า ใส่เบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยลงในน้ำสุดท้ายที่กำลังจะล้างฟองออกจะทำให้ผ้ากล ิ่นสะอาดขึ้นค่ะ

ดับกลิ่นอับของเสื้อผ้าที่เราสวมใส่?
เมื่อจะใช้ให้ผสมเบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วย (1 ถ้วย = 16 ช้อนโต๊ะ) กับผงซักฟอกชนิดน้ำปริมาณที่คุณใช้ แทนที่คุณจะใช้สารฟอกขาวชนิดคลอไรด์ถึงถ้วยหนึ่งเต็ม ๆ คุณสามารถใช้เพียงครึ่งหนึ่งเข้าไปแทนที่ได้ แต่ก็อย่าลืมว่าถึงเบกกิ้งโซดาจะใช้ซักเสื้อผ้าได้ แต่มันก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการซักเท่ากับผงซักฟอก เบคกิ้งโซดาจึงเป็นเพียงส่วนเสริมให้ผ้าสะอาดมากขึ้น เท่านั้น

ใช้ล้างแปรงและหวี?
เอาเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ผสมน้ำอุ่นในชามอ่างเล็กๆ แช่หวีกับแปรงไว้ค่ะ มันจะทำให้พวกคราบต่างๆหลุดออกได้ง่าย

ทำความสะอาดที่ดัดฟัน
(retainers)?2 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 ถ้วย แช่ไว้สักพักแล้วเอาแปรงขัดๆปัดๆคราบออก

ดับกลิ่นแมว?
ให้เอาเบคกิ้งโซดาเทลงไปใน litter box ของแมว ก่อนที่จะใส่ litter หลังจากนั้น ทุกครั้งที่คุณทำความสะอาด litter box พอตักอึแมวไปแล้วก็เอาเบกกิ้งโซดาโรยนิดๆด้านบนเพื่อ เป็นการกลบกลิ่นค่ะ

พื้นผิวสิ้นคราบสกปรก?
สำหรับพื้นผิวแข็งๆ เช่น พื้นครัว พื้นห้องน้ำ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ให้ละลายเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 4 ถ้วย เช็ดทำความสะอาด แล้วค่อยล้างออก ในกรณีที่มีคราบสกปรกทำความสะอาดยาก ให้ผสมเบกกิ้งโวดากับน้ำอุ่นในปริมาณที่เท่ากันข้นจน เป็นแป้ง จากนั้นให้พอกทิ้งไว้บริเวณที่มีคราบสกปรก อย่างเช่น บนเคาน์เตอร์ หรือจานกระเบื้องสัก 1 ชั่วโมงแล้วค่อยเช็ดออก

เช็ดเตารีด?
ใช้ผ้าชุบน้ำผสมเบคกิ้งโซดาบิดพอหมาด นำไปเช็ดใต้เตารีด หรือเครื่องครัว ที่ทำด้วยฟอร์เมก้า สแตนเลส โครเมี่ยม จะทำความสะอาดได้หมดจดไม่เกิดรอยขูดขีด

ดับกลิ่นพรม?
โรยเบคกิ้งโซดาให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที แล้วดูดออก

สำหรับพรมที่เปื้อนคราบน้ำมัน?
ให้เทน้ำผสมเบคกิ้งโซดาลงตรงบริเวณที่เปื้อนคราบน้ำม ัน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง คราบก็จะจางลง จากนั้นให้ใช้น้ำผสมเบกกิ้งโซดาเช็ดทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง

กลิ่นรองเท้า?
ปัญหาใหญ่ของใครหลายคนเพราะรองเท้าถูกใช้งานทั้งวัน เก็บหมักหมมเหงื่อไคล ความอับชื้นง่ายมาก วิธีก็คือ โรยเบคกิ้งโซดาในรองเท้า แล้วนำรองเท้าคู่นั้นใส่ถุงพลาสติกรัดให้แน่น นำไปแช่ช่องแช่แข็งของตู้เย็นไว้ 1 หรือ 2 คืน นำรองเท้าออกมาทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง แล้วเอาไปสลัดผงเบคกิ้งโซดาออกให้หมดแล้วสวมได้เลย แต่หากเรายังไม่สวมทันทีให้ปล่อยผงเบคกิ้งโซดาไว้อย่ างนั้นก่อนจนกว่าจะนำมาสวม หรือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์อัดเป็นก้อนมาใส่ด้านในรอง เท้า หมึกของกระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดกลิ่น และยังทำให้รองเท้าอยู่ทรงด้วย ทุกครั้งที่กลับบ้านให้ใส่กระดาษหนังสือพิมพ์ทุกครั้ ง และเปลี่ยนแผ่นใหม่ทุกอาทิตย์

ทำความสะอาดเครื่องปิ้งขนมปัง?
เอาผงเบกกิ้งโซดาโรยลงบนผ้าเปียกแล้วเอาไปเช็ดตามตะแกรง จะช่วยให้เครื่องปิ้งขนมปังของคุณกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ได้

กำจัดรอยไหม้ตามหม้อหรือกระทะ
ด้วยการเอาเครื่องครัวเหล่านี้ไปแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมเบกกิ้งโซดาพอประมาณสัก 15 นาทีก่อนจะล้างออก ก็จะช่วยให้รอยไหม้เลือนหายไปได้

ทำความสะอาดครื่องชงกาแฟ?
ด้วยการโรยเบกกิ้งโซดาลงไปพอประมาณ แล้วกดให้เครื่องทำงานตามปกติ ก็จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะติดให้น้อยลงได้

ล้างหน้าต่างบานเกล็ด
ด้วยน้ำอุ่นที่ผสมเบ๊กกิ้งโซดา 3/4 ถ้วยตวงราดน้ำให้เปียกทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง ก่อนใช้แปลงขัดออก

รอยด่างเป็นวงหรือรอยจุดบนเฟอร์นิเจอร์ไม้
หากเกิดความร้อนบางครั้งก็อาจขัดออกได้ด้วยการผสมยาสีฟัน และเบ๊กกิ้งโซดาในสัดส่วนเท่าๆ กันใช้ผ้านุ่มเช็ดออกเบาๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดเงาด้วยก็ได้หากจำเป็น

ขจัดคราบหยดน้ำบนพื้นไม้
โดยการใช้เบ๊กกิ้งโซดากับกับผ้าขี้ริ้วหมาดๆ เช็ดออกจำไว้ว่าเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ไม่ควรทำให้เปียก

สีเทียนบนผนัง
ใช้ฟองน้ำเปียกๆ เช็ดเบ๊กกิ้งโซดาเพื่อเช้ดคราบสีเทียนที่ติดบนผนังล้างๆ เช็ดถูเบาๆ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกส่วนใหญ่อื่นๆ รวมทั้ง คราบน้ำมัน ดินสอ และปากกา มาร์คเกอร์ได้ด้วย

ซ่อมรอยร้าว?
ผสมเบ๊กกิ้งโซดากับน้ำเล็กน้อยให้เปียกๆ ข้นๆ เพื่ออุดรูตามผนังที่มีรอยปูนแตกร้าว เพื่อซ่อมแซมเป็นการชั่วคราว เมื่อมันแห้งแล้วจะดูกลมกลืนเข้ากับฝาผนังปูนพลาสเตอร์ขาว เมื่อต้องการซ่อมแซมอย่างถาวรให้ผสมมผงฟูกับกาว (ลาเท็กซ์) ซ่อมแซมสีขาวที่ใช้ตามบ้านเรือน

ทำความสะอาดแป้นพิมพ์คีบอร์ด
ด้วยแปลงสีฟันขนอ่อนๆ ขัดโดยใช้เบ๊กกิ้งโซดา4 ช้อนโต๊ะละลายกับน้ำ 1 ถ้วยตวง จากนั้นใช้กระดาษชำระเช็ดออก

ทำความสะอาดไม้ถูพื้น?
แช่ไม้ถูพื้นหรือไม้กวาดในน้ำ 1 ถัง ละลายเบ๊กกิ้งโซดา 4 ช้อนชา แต่ให้แช่หลังจากที่ชำระสิ่งสกปรกออกไปแล้ว วิธีนี้จะเป็นการกำจัดกลิ่นเหม็นอับตกค้างบนไม้ถูพื้นหลังแช่ตากให้แห้งบ้านสุขภาพดี

ทำความสะอาดกระเป๋าเดินทาง?
ป้องกันไม่ให้ภาชนะกระเป๋าเดินทางขิงคุณมีกลิ่นเหม็นอับเหม็นชื้นจากเชื้อรา โยดการโรยเบ๊กกิ้งโซดาลงบนภาชนะข้าวของเครื่องใช้ก่อนที่จะเก็บเข้าที่เข้าทางอย่างมิดชิด

ขจัดกลิ่นเหม็นอับอกจากผ้านวม
ฟ้าห่มหลังจากที่คุณเก็บไว้นานๆ โรยเบ๊กกิ้งโซดาลงบนผ้านั้น ม้วนเก็บไว้สัก 2 ชั่วโมง จากนั้นสะบัดออกและตบให้ฟูหรือใช้ไดร์เป่าลมให้ฟูโดยไม่ใช้ความร้อนเป่า

เล่นศิลปะกับลูก
แค่นำสีผสมอาหารมาผสมกับน้ำส้มสายชูและนำไปหยดใส่ผงเบกกิ้งโซดา ผงเบกกิ้งโซดาก็จะเกิดฟองสีขึ้นทันที สามารถนำสีหลายๆสีมาเล่นผสมสีกันได้ เด็กๆจะตื่นเต้นกันมากเวลาผงเบกกิ้งโซดาฟูขึ้นมาเป็นฟองแล้วแตกออก

‪#‎ใครมีวิธีการใช้ประโยช์จากเบกกิ้งโซดาเพิ่มเติมเอามาแชร์กันหน่อยนะจ๊า‬

ครูผู้ช่วย

จาก : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=571327126347861&set=a.341952469285329.1073741828.100004117369433&type=3&theater

การแช่เท้าเพื่อสุขภาพ

อาศัยหลักการ การถ่ายเทประจุ จากแหล่งที่มีประจุ มากไปยัง แหล่งที่มีประจุน้อย เกลือ มีประจุบวก จะดึง ประจุลบ ออกจากร่างกาย อาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์ และศาสตร์เรื่องพลังงานที่เท้ามีจุดเชื่อมต่อกับจุดจักระในร่างกาย ทั้ง 7 จุด จักระจะหมุนอยู่ตลอดเวลา แต่บางคนหมุนช้า บางคนหมุนเร็ว การหมุนของจักระ ก็เหมือนกับการหมุนของใบพัดลม เมื่อหมุนไปเรือยๆ จะสังเกตเห็นมีฝุ่นเกาะที่ใบพัด หากไม่นำพัดลมมาทำความสะอาด สิ่งสกปรกเหล่านั้นก็จะเกาะเพิ่มมากขึ้นๆ แต่เนื่องจากคนไม่สามารถทำให้จักระหยุดได้ ถ้าจักรหยุดหมุนก็คือตาย การจะขจัดขยะฝุ่นออกจากใบพัดของจักระได้ ก็คือการใช้เกลือแช่น้ำ แล้วแช่เท้าไว้ สัก 20 นาที ต่อครั้ง เกลือเมื่อแตกตัวแล้วจะเป็นประจุบวก ตัวสิ่งสกปรกนั้นเป็นประจุลบ เมื่อเกลือแตกตัวในน้ำแล้ว ด้วยความเข้มข้นที่พอดี จึงดึงดูดประจุลบที่ติดอยู่ที่จักระออก ทำให้โรคบางอย่างที่เกิดจากจักระมีประจุลบเกาะอยุ่ หายเป็นปกติ ทั้งนี้ต้องอาศัยเวลา และความถึ่ในการแช่เท้าให้บ่อย ๆ เพื่อทำความสะอาดจักระของเรา

12039538_1178608925499312_1805650592509885129_n Continue reading

ประโยชน์ของ BAKING SODA

เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) ที่บางคนเรียกว่า ผงฟู มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต มีประโยชน์มากมาย

1.ซักผ้า ไม่ว่าจะซักมือหรือซักเครื่อง ก็แค่ใส่ผงฟู แทน ผงซักฟอก น่ะแหละ ข้อดีคือ ซักเสื้อผ้าสะอาด หมดกลิ่นเหม็นอับ อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง แพ้ง่าย แม้แต่ผิวเด็ก น้ำ ที่ซักแล้วก็ไม่ทำลายระบบนิเวศน์ด้วย แถมราคาก็ประหยัดกว่าผงซักฟอกทั่วๆ ไป สำหรับคราบ อาจใช้ผงฟูผสมน้ำป้ายๆ แล้วขยี้ค่ะ

2.ล้างจาน นอกจากซักผ้าแล้ว ใช้ล้างจานก็ได้ เพราะผงฟู ขจัดคราบมันและกลิ่นได้ดี เอาผงฟูเทแล้วใช้ฟองน้ำขัดล้าง หรือผสมผงฟูกับน้ำ แล้วเอาฟองน้ำจุ่มล้างจาน ก็ได้ แล้วแต่สะดวก แต่ถ้าจานมันมากๆ คงต้องใช้ตัวช่วยเช่น เอาทิชชูเช็ดปากแล้วปาดคราบมันออกก่อนล้าง ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ก็ยังได้

3. ล้างห้องน้ำ ใช้ผงฟูเป็นผงขัด-ล้าง แทนการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำกรดกัดกร่อนรุนแรง ถนอมสุขภาพคนล้างค่ะ ถึงห้องน้ำจะไม่ขาวจั๊วะใสปิ๊งแบบน้ำยาล้างห้องน้ำทั่วไปให้คุณได้ แต่คุณได้ช่วยสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์น้ำค่ะ ถ้าอยากใช้ขัดหัวก๊อกน้ำ หรือวัสดุที่ต้องการความแวววาว อาจบีบน้ำมะนาว หรือใช้น้ำส้มสายชูผสมกับผงฟู แล้วขัดๆ ค่ะ วาว แน่นอน

4. ล้างผัก เป็นวิธีที่สะอาดและปลอดภัยที่สุด ง่ายๆ แค่ผสมผงฟู ซัก 2 ช้อนโต๊ะหรือมากกว่า น้ำเยอะใช้เยอะหน่อย ละลายน้ำธรรมดา หรือน้ำอุ่นนิดๆ ใช้แช่ผัก ผลไม้ ขจัดสิ่งสกปรกและสารพิษได้ดีมาก ปลอดภัย เพราะผงฟูกินได้

5. ขจัดกลิ่นอับ กลิ่นเหม็น เช่น ตู้เย็น ตู้รองเท้า ในรองเท้า ห้องที่ทาสีใหม่ ฯลฯ ก็เอาผงฟู เทใส่จาน ถาด กระป๋อง หรือโปรยๆ ลงไป ณ บริเวณที่อับ เหม็น แต่ต้องปิดตู้ ปิดห้อง ให้มิดชิดนะคะ ทิ้งให้มันดูด ซักวัน สองวัน หรือวางไว้ตลอด ช่วยดูดกลิ่นเหม็นได้ดี พอๆ กับใช้ คาร์บอน (ถ่าน) เลยค่ะ

6.แปรงฟัน ลดหินปูน กลิ่นปาก และช่วยให้ฟันขาวได้น่าทึ่ง

7.ช่วยเรอ Baking Soda ผสมน้ำดื่ม ช่วยให้เรอแก้อาการท้องอืดได้ค่ะ

เนื่องจาก Baking Soda มีอนุภาคเล็กเป็นรูปทรงผลึกที่อ่อนนุ่ม จึงช่วยในการขัดถู ยังมีสรรพคุณในการดูดกลิ่นเหม็น ดูดความชื่น ปรับค่าความเป็นกรดด่าง ฆ่าเชื้อโรค ไม่กัดกร่อนผิวภาชนะ จึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในบ้านเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพตามตำรับและสูตรต่างๆ ดังต่อไปนี้ Continue reading

แมงลักช่วยได้ ใครรู้บ้างว่าตัวเองแบกอุจจาระไปไหนต่อไหนกีกิโลกรัม?

หมอพรทิพย์เคยผ่าศพพบอุจจาระตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจ บางศพมีอุจจาระน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัม มันตกค้างอยู่ได้อย่างไร

“อุจจาระตกค้าง” อุจจาระตกค้าง เนื่องมาจาก

1. เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด

2. กินอาหารที่มีกากใยน้อย

3. มีพยาธิ หรือ เชื้อรา ทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ

4. ระบบดูดซึมเสีย เพราะน้ำมันพืชเคลือบ ทำให้น้ำที่ดื่มเข้าไป ไม่หมุนเวียน

5. ไม่ถ่ายอุจจาระเวลา 05.00-07.00 เช้า

หากถ่ายอุจจาระ หลังเวลา 7 โมงเช้า ลำไส้จะบีบให้อุจจาระขึ้นไปข้างบน เวลาถ่าย จะถ่ายไม่หมด แต่ไม่รู้ตัว ที่ปลายลำไส้จะมีประสาทปลายทวาร เมื่อมีอุจจาระที่เหลวพอ มาจ่อปลายทวาร ประสาทจะส่งสัญญานบอกสมองให้ปวดอึ หลัง 7 โมงเช้า ลำไส้จะทำงานไม่เป็นปกติ บีบอุจจาระให้ขาดช่วง เวลาถ่ายจนรู้สึกว่าหมดแล้วเราก็หยุด แต่ความจริง อุจจาระท้ายขบวนยังไม่ออก แต่มันถูกดันกลับขึ้นไป ไม่มาจ่อปลายทวาร ทำให้เราไม่ปวดอึ เราก็นึกว่าหมดแล้ว อุจจาระที่ค้างไว้นี้ ก็จะเกาะที่ผนังลำไส้พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่า มันก็แซงหน้าไปก่อน แต่มันไม่สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งไว้ ก็เกาะติดแน่น

ฉะนั้นทุกวันที่ถ่าย มันก็ถ่ายเฉพาะอึที่เหลวพอ ส่วนที่เหลือ ก็เกาะไปเรื่อย ๆ อุจจาระตกค้างจะไปทับเส้นเลือดต่างๆ ในกระเพาะและ กดทับกระดูกหลัง ทำให้เกิดอาการมากมาย เช่น ท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไมเกรน และ อื่น ๆ

“นั่นแหละเป็นที่มา..ที่คุณหมอพรทิพย์เขียนไว้ว่า เวลาผ่าศพจะเจออุจจาระตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจบางศพ มีน้ำหนักอุจจาระถึง 10 กิโล”

การนำอุจจาระตกค้างออกจึงจำเป็นต้องหาว่าเป็นที่สาเหตุใดใน 5 สาเหตุข้างต้น แต่ถ้าสามารถได้รับการตรวจด้วยลูกดิ่งเพนดูลั่มก็จะรู้ได้ สำหรับท่านที่ไม่สะดวกในการเดินทางมาให้ตรวจก็แนะนำให้ถ่ายพยาธิเสียก่อน แล้ว ลองสูตรอาหารดังต่อไปนี้ Continue reading

เปลือกกล้วยมีประโยชน์…อย่าทิ้ง

เป็นที่ทราบกันดีว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่มากด้วยคุณค่าและยังมีรสชาติที่อร่อย ให้กำลังงานและคุณค่าทางอาหารสูง แต่ไม่ใช่เฉพาะแต่เนื้อกล้วยเท่านั้นที่มีประโยชน์ แต่เปลือกกล้วยก็ยังมากด้วยประโยชน์ วันนี้เรามาดูกันว่าจะนำเปลือกกล้วยมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างอย่างสั้นๆ …

peeled-banana

ใช้กำจัดหูด
นำเปลือกกล้วยมาแปะบนติ่งหูดโดยใช้เทปสำหรับแปะผ้าก๊อซพันแผล หรือจะเป็นเทปอะไรก็ได้ที่สามารถยึดเปลือกกล้วยไว้กับผิวเราได้ตลอดคืน ให้แปะก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้าและแกะออก แปะทุกวันจนกว่าหูดจะแห้งและหลุดไปเอง

ลดอาการปวดแสบปวดร้อน
ใช้ผิวด้านในของเปลือกกล้วยถูนวดบริเวณผิวหนังที่เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน อาการจะทุเลาลงในไม่ช้า

แก้สิวอักเสบ
ใช้เปลือกกล้วยแปะหัวสิวไว้โดยให้ด้านในของเปลือกกล้วยสัมผัสกับผิวหนังเหมือนกับวิธีกำจัดหูด ทิ้งไว้จนกว่าผิวเปลือกกล้วยจะกลายเป็นสีน้ำตาลจึงเปลี่ยนจนกว่าสิวจะดีขึ้น

บรรเทาอาการจากริดสีดวงแบบภายนอก
ใช้ผิวด้านในของเปลือกกล้วยแปะไว้บริเวณที่มีอาการปวดแสบปวดร้อน ให้แปะไว้ข้ามคืน ทำทุกคืนจนกว่าอาการจะหายสนิท

กำจัดริ้วรอยรอบดวงตา
เช่นเคย ใช้ผิวด้านในของกล้วย แปะไว้รอบดวงตา สารจากเปลือกกล้วยให้คุณค่าจะทำให้ผิวรอบๆ ดวงตาชุ่มชื่นนุ่มนวลขึ้นและช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ น้อยๆ รอบๆ ดวงตา

ขอบคุณ
ภาพ : http://thefitnessfairy.com
เรื่อง : http://www.healthyfoodteam.com/after-reading-this-you-will-never-throw-away-your-banana-peel-again1/
บทความแปล สงวนสิทธิ์การเผยแพร่บทความในเชิงการค้าและการเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ และ/หรือ ไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของบทความ
blog.etcpool.com

ประโยชน์ของมะนาว

มะนาวเป็นผลไม้พื้นๆที่ใช้บริโภคกันในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่ามะนาวลูกเล็กๆนั้น มีประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆได้มากมายหลายโรคด้วยกัน ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่ใช้มะนาวรักษาโรค ประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย จีน และอินเดีย เขาก็ใช้มะนาวกัน ประเทศเพื่อนบ้านที่ไกลออกไป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศแถบอเมริกาตะวันตกก็ใช้มะนาวแก้ไอและรักษาโรคอื่นๆเช่นเดียวกัน

ประโยชน์ของมะนาวในแง่การนำมาใช้เป็นสมุนไพร มีดังนี้

                            

          1. แก้ไอออกเลือด (ไอมีเลือดปน) – ใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา มะนาว 4 ลูก เกลือ 1 ช้อน หรือประมาณ 3-4 เม็ด ผสมให้เข้ากันดี ให้มีรสเปรี้ยวเค็มหวาน ใช้จิบทุกครั้งที่ไอ -ใช้มะนาว 108 ใบ เบี้ยจั๊กจั่น 11 ตัว ปูนขาวหนักประมาณ 4 บาท วิธีทำ คั้นน้ำมะนาว ใส่เบี้ยจั๊กจั่นและปูนขาวปนกัน ดองประมาณ 3 คืน รับประทานครั้งละจอกชา แก้ไอออกเลือดดี 
          2. ต่อมทอนซิลอักเสบ เอาน้ำมะนาว น้ำผึ้งและปูนขาวผสมดื่ม แก้ทอนซิลอักเสบ 
          3.แก้ซาง,ตุ่มในคอเด็ก,เสมหะ – เมล็ดมะนาวขับเสมหะแก้โรคซางของเด็ก แก้เม็ดยอดในปากโดยเอาเม็ดมะนาวเผาไฟ บดให้ละเอียด ใช้น้ำมะนาวหรือรากของมะนาวฝนกันน้ำเป็นกระสาย ผสมเข้าด้วยกัน แล้วกวาดซางเด็ก – ให้เอาน้ำมะนาว 1 ช้อนชา แล้วเอารากมะนาวฝนให้ข้นดี แล้วจึงเอาไปล้วงคอเด็กสัก 2-3 ครั้งก็หาย – ใช้เม็ดมะนาวเคี้ยวกิน ขับเสมหะ ใช้ติดต่อกัน 7 วัน ได้ผลดี 
          4. แก้เสียงแหบแห้ง – มะนาวทำให้เสียงไม่แหบแห้ง ตื่นตอนตอนเช้าทุกครั้งให้ผ่ามะนาวครึ่งหนึ่ง จิ้มเกลือบีบน้ำลงคอกลืนกิน ทำทุกเช้าทุกวัน ทำให้เสียงไม่แหบแห้ง 
          5. ก้างติดคอ – เมื่อก้างปลาติดคอ เอามะนาว 1 ลูกคั้น เอาแต่น้ำ เติมเกลือ น้ำตาลนิดหน่อยกรอกลงไปให้ตรงก้างที่ติดคอ อมไว้สักครู่ แล้วจึงค่อยกลืน ก้างจะอ่อนตัวหลุดลงไปในกระเพาะ – ก้างปลาติดคอซึ่งเป็นชิ้นเล็กๆ เมื่อกลืนน้ำลายจะทำให้รำคาญเท่านั้น ให้ผ่ามะนาวแล้วนำมาอมไว้ในปาก อมจนรู้สึกรสเปรี้ยวของมะนาวเจือจางสัก 2-3 หน จะทำให้ก้างหลุดออกไปได้ 
          6. แก้ไข้ – นำใบมะนาวมาหั่นฝอยๆ ชงด้วยน้ำเดือด ดื่มแบบน้ำชาจะช่วยลดไข้และใช้อมกลั้วคอฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย – ประเทศในทวีปอาฟริกาตะวันตกนิยมใช้เปลือกรากมะนาวต้มเป็นยาแก้ไข้อย่างดี และใช้ใบทำเป็นยาชงกินแก้ไข้ที่มีอาการตัวเหลืองเล็กน้อย นอกจากนี้ยังใช้น้ำมะนาวดื่มแก้กระหายน้ำ แก้ไข้อีกด้วย – ที่ประเทศอินเดีย ถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่ นิยมรักษาโดยดื่มน้ำมะนาวแล้วพักผ่อน ถ้าเป็นไข้หวัดธรรมดา จะรับประทานผลอินทผลัมและดื่มน้ำมะนาวรักษา 
          7. แก้ไข้ทับระดู เอาใบมะนาว 100 ใบ มาต้มกินแล้วหาย 
          8. แก้ปวดศีรษะ – เอามะนาวมาฝานเป็นซีกบางๆ แล้วเอาปูนที่กินกับหมาก ละเลงด้านหน้าของซีกมะนาวนั้นบางๆ แล้วปิดตรงขมับ ทำอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ อาการปวดก็ค่อยหายดีขึ้นทุกวัน – ใช้น้ำมะนาวผสมกับน้ำตาลสัก 1 แก้ว ดื่มตอนเช้า ช่วยให้หายจากโรควิงเวียนและปวดหัว – ชาวมาเลเซีย ใช้ใบมะนาวผสมกับน้ำมะนาว บดทำเป็นยาใส่ผมแก้ปวดศีรษะ – ประเทศในทวีปอาฟริกาตะวันตก ใช้ใบมะนาวตำให้ละเอียดถูศีรษะหรือเคี้ยวรากมะนาวแก้ปวดศีรษะ 
          9. แก้เลือดออกตามไรฟัน – เกิดจากการขาดวิตามินซี ทำให้เหงือกบวมและมีเลือดออกตามไรฟันเป็นประจำ หรือมีเลือดออกได้ง่าย เช่น มีเลือดกำเดาไหล มีจุดพรายย้ำขึ้นตามผิวหนัง อาจมีเลือดออกจนซีดได้ ถ้าอาการรุนแรง จะมีอาการปวดน่อง ข้อเท้าบวม การรักษาให้กินมะนาวหรือผลไม้เปรี้ยวๆ เช่น ส้ม จะแก้ได้ – แก้โรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟัน ใช้มะนาวถูฟันสักพักเลือดก็จะหยุด 
          10. แก้เหงือกบวม ใช้ลำสีชุบมะนาวเช็ดที่เหงือกวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น 
          11. แก้ลิ้นเป็นฝ้า ใช้ลำสีชุบมะนาวเช็ดที่ลิ้นวันละ 3ครั้ง 
          12. ขจัดคราบบุหรี่ ใช้มะนาวถูฟันที่มีคราบบุหรี่จับ เมื่อใช้มะนาวถู คราบนั้นจะหาย ถ้าฟันผู้ที่รับประทานหมากต้องถูกบ่อยๆ ถ้าจับมากหลายวันแล้วต้องถอดฟันแช่น้ำมะนาวไว้ค้างคืน (หมายถึงผู้ใส่ฟันปลอมนะ) ฟันจะขาวสะอาดเงางาม 
          13. ยาบ้วนปาก บีบน้ำมะนาวลงในแก้วสัก 2-3 หยดเท่านั้น บ้วนปากได้สะอาดยอดเยี่ยม 
          14. แก้เป็นลมวิงเวียน อยากอาเจียน – ใช้มะนาวผ่าซีก โรยเกลือป่น เหยาะน้ำตาลทรายขาวสักนิดบีบกินลงไปพักเดียวหายเป็นปลิดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้จากการตั้งครรภ์ เมารถ แพ้อากาศ มะนาวช่วยคุณได้ – ใช้มะนาวจิ้มเกลืออมไว้ในปากสักครูจะรู้สึกสดชื่นจากการเป็นลมวิงเวียน หน้ามืดได้ – ใช้เปลือกมะนาวแกะออกแล้วบีบหรือดมใกล้จมูก แก้เป็นลม วิงเวียน หน้ามืดตาลาย – ด้านประเทศฟิลิปปินส์และประเทศจีน ใช้เปลือกลูกมะนาวขยี้ใก้ดมแก้คลื่นไส้หรือเป็นลม หมอพื้นเมืองชาวอินเดีย นิยมใช้น้ำมะนาวแก้อาเจียน 
          15. แก้วิงเวียนเมื่อคลอดบุตร – เอามะนาวปอกใส่ภาชนะ 2-3 ลูก เพื่อให้คนที่คลอดบุตรนั้นกินแก้วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย – เอามะนาว 3 ผล เกลือป่นและพริกไทยป่นพอควร ละลายด้วยน้ำร้อน แทรกเหล้าโรงประทาณให้ได้สักครึ่งถ้วยชา เวลาตกฟากรับประทาน 1 ครั้ง หรือรับประทาณต่อไปอีกก็ได้ 16. แก้เมาเหล้า เมายา – ดื่มน้ำมะนาวหรืออมกับเกลือ สำหรับคนเมาเหล้าหรือวิงเวียนจะเป็นลม 
          17. แก้ลมเงียบ เอาใบมะนาวมาต้มกินกับยาหอมประมาณ 1 อาทิตย์ 
          18. แก้ตาแดง เอามะนาวผ่า แล้วเอาเมล็ดในออกให้หมด แล้วก็บีบเอาน้ำมะนาวหยอดลงในตกทั้ง 2 ข้างหลายๆหยด สัก 1-2 นาที พอหายแสบแล้วล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด เช็ดหน้าเรียบร้อยแล้วก็สบาย และใช้มะนาวต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะหายตาแดง 
          19. บำรุงตา ใช้มะนาวสดทั้งลูกฝานตามที่เห็นสมควร แล้วบีบใส่ตาประจำ ประมาณเดือนหรือสองเดือนครั้งก็ใช้ได้ (เนื่องจากตาเป็นอวันวะที่บอบบางมาก และน้ำมะนาวนั้นหยอดลงไปแล้วจะรู้สึกแสบตา ดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงไม่ควรใช้น้ำมะนาวนี้หยอดตา) 
          20. บำรุงผิว เอาเปลือกที่บีบเอาน้ำออกแล้ว นำมาทาบริเวณข้อศอก คาง เข่า ฝ่าเท้า ส้นเท้า ช่วยให้ส่วนเหล่านั้นนุ่มนวลได้อย่างดี

                                       

          21. แก้ผิวแตก ใช้มะนาวทาผิวหนังทำให้ชุ่มชื้น ไม่แตกกร้านในช่วงอากาศแห้ง 
          22. แก้สิวฝ้า – ในกรณีที่สิวไม่มีการอักเสบติดเชื้อเป็นหนอง การรักษาอย่างง่ายที่ถูกวิธี คือ การทำความสะอาดใบหน้า เพื่อลดไขมันและกำจัดสิ่งอุดตันตามรูขุมขนบนใบหน้า หรือบริเวณอก คอ ที่มีสิวขึ้น ฉะนั้นมะนาวจะช่วยรักษาสิงให้ลดน้อยลงได้ เพราะน้ำมะนาวมีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆจะทำให้เนื้อเยื่อที่ตามแล้วหลุกออกไป ทำให้ลดการอุดตันของรูขุมขน กรดอ่อนๆจะช่วยกำจัดเชื้อโรคและช่วยกำจัดไขมันได้บ้าง วิธีใช้ คือ ล้างหน้าด้วยสบู่ธรรมดาให้สะอาดแล้วผ่ามะนาวทาบริเวณที่มีสิวขึ้นให้เปียกชุ่มจนทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จึงล้างออกด้วยสบู่อีกครั้ง ทำเช่นนี้วันละ 1-2 ครั้ง เช้าและเย็น – ใช้แป้งดินสอพองกับน้ำมะนาวทาบริเวณที่เป็นสิวก่อนนอนทุกวัน สิวจะค่อยๆยุบหายไปในที่สุด – ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ช้อนชา ผสมกันให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาไปแต้มที่ตุ่มสิว หรือผู้ที่ไม่มีสิว ใช้ทาบางๆทั่วไปประมาณ 30 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสบู่ หน้าจะนิ่มนวลอยู่เสมอ 
          23. ลบรอยแผลเป็น รอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุ ใช้น้ำมะนาวผสมดินสอพองทาบริเวณที่เป็น ทำให้หน้าไม่ดำ หรืออาจใช้ใบมะลิสดตำผสมเพิ่มเข้าไปอีกก็ได้ 
          24. แก้ขาลาย คนที่มีขาลายเป็นจุดด่างดำเม็ดเล็กๆนั้น แก้ได้โดยเอาน้ำมะนาวบีบใส่ดินสิพองหมาดๆ แล้วทาทุกๆคืนก่อนนอน พอรุ่งเช้าก็ล้างออก ทำอย่างนี้ทุกวัน ไม่นานวันรอยด่างดำก็ลบหายไปเอง 
          25. แก้น้ำเหลืองเสีย ใช้ใบมะนาว 108 ใบกับเกลือหรือดีเกลือ 2 บาท หรือประมาณ 3 ช้อนคาวรวมกัน ต้มรับประทานเป็นยาระบายถ่ายน้ำเหลืองเสีย รับประทานครั้งละครึ่งถ้วยแก้วกลาง วันละ 1 ครั้งก่อนเข้านอน 
          26. แก้ส้นเท้าแตก เอามะนาวสดผ่าซีกแล้วบีบมะนาวให้หยดลงบนบริเวณที่เป็นแผลนั้น เพียงวันละ 2-3 ครั้ ภายใน 7 วัน โรคส้นเท้าแตกจะหายไปเอง 
          27. ดับกลิ่นเต่า ใช้น้ำมะนาวทารักแร้ป้องกันกลิ่นเต่า 
          28. แก้โรคผิวหนัง ประเทศแถบทวีปอาฟริกาตะวันตกและประเทศอินเดีย ใช้น้ำมะนาวทาแก้โรคผิวหนัง แต่ของอินเดีย เวลาอาบน้ำ ห้ามฟอกสบู่บริเวณที่เป็น 
          29. แก้กลาก เกลื้อน หิด – นำกำมะถันตำให้ละเอียดบีบมะนาวใส่พอสมควร ทาบริเวณที่เป็นเกลื้อนหลังอาบน้ำและก่อนนอน เคยใช้กับญาติโยมหลายราย ผลออกมาแล้วหายเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ – ใช้มะนาวผ่าซีกแตะผงกำมะถันแล้วมาถูบริเวณที่เป็นหิด กลากเกลื้อนจะกายในเร็ววัน 
          30. แก้หูด เอาเปลือกมะนาวหมักกับน้ำส้มสายชู 2 วัน ตัดเปลือมะนาวมาปิดที่หูด ปิดทับด้วยพลาสเตอร์ค้างคืนไว้ รุ่งเช้าจึงเอาออก ให้ทำเช่นนี้นาน 2 อาทิตย์ 
          31. แก้พุพอง ใช้รากมะนาวฝนกับน้ำซาวข้าว ทาแก้พุพอง แสบร้อน 
          32. แก้น้ำกัดเท้า ใช้มะนาวทาที่เป็นตุ่มคัน น้ำกัดเท้า ทาแล้วทิ้งให้แห้ง ล้างออกด้วยน้ำสบู่ ให้ผ้าเช็ดให้แห้ง แล้วเอาแป้งทา ตุ่มคันก็จะหาย 
          33. แก้ปูนซีเมนต์กัด เวลาถูกปูนซีเมนต์กัดตามมือ เท้า เอามะนาวมาตัดกลางลูก แล้วบีบน้ำมะนาวตรงที่ปูนกัดก็จะหาย 
          34. แก้คัน – ใช้มะนาวตัดกลางลูกรมไฟพออุ่น ถูทาตามที่คันภายใน 2-3 วัน จะหาย – เรื่องแก้คันนี้ในประเทศอินเดีย ใช้มะนาวผสมน้ำผึ้ง ทาบริเวณที่คันและเวลาอาบน้ำ อย่าฟอกสบู่บริเวณที่คัน ใช้ทาทุกครั้งเมื่อรู้สึกคัน 
          35. แก้หนอนคัน แถวชนบทมีตัวหนอนหลายชนิด เมื่อเราไปถูกมันเข้าจะทำให้เนื้อตรงบริเวณนั้นคันมาถึงกับเน่าเปื่อยก็มี ถ้าไปถูกตัวหนอนแล้วคันแต่ยังไม่เปื่อยเป็นแผล ให้เอามะนาวผ่าซีกถูตรงที่คันนั้น แต่ถ้าเปื่อยเป็นแผลแล้ว ให้เอาบานไม่รู้โรยมาตำกับปูนที่กินกับหมากผสมน้ำเล็กน้อย ทาตรงแผยเปื่อยรับรองหาย 
          36. แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย – ใช้ระงับความเจ็บปวดจากพิษแมลงได้ โดยใช้มะนาวพอกบริเวณปากแผลทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วเปลี่ยนใหม่ทำดูจะหายปวด – ในประเทศจีน ใช้ผลสดคั้นเอาน้ำ ทาบริเวณที่ถูกตะขาบกัด แมลงป่องต่อยทันทีจะแก้ได้ 
          37. แก้สังคัง ใช้มะนาวผ่าซีก ทาก่อนนอนและหลังตื่นนอน เพียงไม่กี่วันก็หาย 
          38. ใช้สระผม แก้คันศีรษะ – ใช้น้ำมะนาวสระผมทำให้ผมสะอาด หอม – ถ้าคันศีรษะบ่อย ใช้น้ำมะนาวนวดศีรษะให้ทั่วสักครู่ก่อนสระผมจะแก้ได้ 
          39. แก้หัวโน ใช้แป้งดินสอพองผสมน้ำมะนาว ทาตรงที่ช้ำบวมสักพักใหญ่ๆ อาการปวดบวม ปูด ก็จะยุบ หมั่นทาวันละ 1-2 ครั้ง ภายใน 2 วันก็จะหายไปเอง 
          40. แก้ผิวหนังฟกช้ำ ผสมน้ำมะนาวกับดินสอพองข้นๆ ทาบริเวณที่มีอาการผิวเนื้อถูกกระแทกเขียวฟกช้ำ หรือบวมโน จะหายเป็นปกติ

                                                  

          41.แก้หนามปัก แก้หนามปักคา ใช้มะนาวกับน้ำมันตับปลา ใส่ที่แผลจะดูดหนามออกมาได้ 
          42. แก้เล็บขบ เอามะนาวมาผ่าตรงส่วนหัวออกขนาดพอสอดนิ้วเข้าไปได้ ใช้มีดคว้านเอาเนื้อข้างในออกเล็กน้อย เสร็จแล้วเอาปูนทาบางๆ แล้วเอานิ้วสอดเข้าไป แล้วทิ้งไว้ ทำดังนี้ 2-3 ครั้ง อาการเล็บขบจะหายไป 
          43. แก้ปลาดุกยัก ใช้มะนาวผ่าซีกแล้วกดหรือถูครงรอยปลาดุกยักสักพักหนึ่ง จะหายปวดภายใน 4-5นาที 
          44. แก้งูกัด แก้งูกัดให้ปฏิบัติดังนี้ 1. ให้คนเจ็บนอนราบๆ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายช้าลง และพิษงูจะได้แผ่ซ่านช้าลงด้วย 2. ถ้าถูกงูพิษกัดที่แขนและขา ให้เอาเชือกรัดเหนือแผลหน่อย กะให้รัดอยู่ในระหว่างแผลกับหัวใจของคนเจ็บ การรัดให้รัดพอให้เลือดตรงผิวหนังนั้นหยุดไหลเพื่อกันไม่ให้พิษผ่านเข้าเส้นโลหิตดำเท่านั้น ไม่ต้องรัดแน่นมากจนหลอกเลือดที่อยู่ลึกลงไปพลอยหยุดไหลไปด้วย ถ้ารัดพอดีๆจะสังเกตเห็นน้ำเหลืองไหลซึมออกจากแผลอยู่เรื่อยๆ 3. ใช้ใบมีดโกนที่สะอาดและฆ่าเชื้อแล้ว กรีดลงบนแผลเป็นรูปกากบาท ลึกสัก 1 ใน 8 นิ้ว ยาว สัก 1 ใน 4 นิ้ว ทั้ง 2 เขี้ยว อย่าตกใจว่าจะเสียเลือด เพราะมันจะช่วยล้างพิษออกด้วย ให้ใช้ปากดูดพิษออกมาจากแผลที่กรีด พิษงูจะไม่เป็นอันตรายเมื่อเข้าไปอยุ่ในปาก นอกจากจะมีแผลในปากหรือฟันผุเท่านั้น เมื่อดูดพิษออกมาให้รีบบ้วนทิ้ง แล้ววางน้ำแข็งที่แผลสลับกับการดูดช่วยด้วย และระวังให้แขน ขาที่ถูกงูกัดให้อยู่ต่ำๆไว้ หมายเหตุ ถ้าฟันผุหรือมีแผลในปาก ใช้ขวดอุ่นให้ร้อน (ระวังแตก) เอาปากขวดทาบกับแผล เพื่อช่วยดูดเลือดออกจากแผลแทน 4. ให้กินน้ำมะนาว ขนาดผลโตๆสัก 1 ผล น้ำมะนาวจะไปทำปฏิกิริยากับพิษงูที่แล่นเข้าสู่กระเพาะอาหาร สักครูก็จะอาเจียนออกมา มีเลือดปนเล้กน้อย ซึ่งแสดงว่าพิษงูได้หมดฤทธิ์แล้ว 5.คนเจ็บจะเกิดความมั่นใจและค่อยหายกลัว ให้เขาดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มร้อนๆได้ แต่อย่าให้กินเหล้า พิษงูมันเดินเข้าหัวใจอย่างช้าๆ แต่หลังจากที่ถูกงูกัด อาจปวดมากจนถึงกับช็อค ให้คนเจ็บอยู่เงียบๆ เพราะถ้าไปทำอะไรเข้า จะเป็นการเร่งพิษเดินทางเข้าสู่หัวใจเร็วเข้าอีก ให้ใช้น้ำแข็งหรือผ้าชุบน้ำแข็งวางที่แผล จะช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้ และรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาล 
          45. ป้องกันงู เมื่อใช้มะนาวคั้นเอาน้ำหมดแล้ว เอาเปลือกวางท้องเอาไว้ใกล้ๆที่นอน จะทำให้งูไม่มารบกวน เพราะได้กลิ่นมะนาว 
          46. แก้แมงคาเรืองเข้าหู นำน้ำมะนาวอย่างเดียว กรองด้วยผ้า ใช้หยอดหู แก้แมงคาเรืองเข้าหู ถ้าตัวยังไม่ตายจะหนีออกมา ถ้าไม่หนีออกมาตัวจะตายในหู 
          47. แก้ฝี – แก้ปวดฝีใช้รากสดฝนกับเหล้าทา – ขูดเอาผิวมะนาว ผสมกับปูนแดงปิด ฝีจะหาย 
          48. แก้ฝีมะตอย เอามะนาวทั้งลูก มาคว้านไส้ในออกให้เอานิ้วเข้าไปได้ แล้วเอาปูน(กินหมาก)ทาเข้าไปในลูกมะนาวเล็กน้อย แล้วสวมเข้านิ้วที่มีฝีขึ้น 
          49. แก้แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ให้เอาน้ำมะนาวมาชะโลมบริเวณที่ถูกไฟไหม้หรือถูกน้ำร้อนลวก มีสรรพคุณดับพิษปวดแสบแวดร้อนได้ผล 
          50. แก้บาดทะยัก เมื่อดถูตะปูตำ หนามเกี่ยว หรือถูกของที่มีคม เอาน้ำมะนาวบีบใส่แผลที่เป็น จะป้องกันบาดทะยักได้ 
          51. แก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ – แก้อาการปวดท้อง แน่นท้อง เอาผลมะนาวครึ่งผล บีบเอาน้ำมะนาวใช้กินกับน้ำอ้อย หรือน้ำตาล แก้อาการนี้ได้ – เด็กท้องอืดร้องกวนในเวลากลางคืน เอาปูนเคี้ยวหมากขยี้ลงบนฝ่ามือ บีบน้ำมะนาวคลุกให้ทั่ว แล้วทาท้องด็ก สักครู่เด็กจะผายลม 2-3 ครั้ง แล้วหยุกร้องไห้ หลับสบายตลอดคืน เพราะน้ำมะนาวทำปฏิกิริยากับปูน ให้ความร้อนเกิดความอบอุ่น 
          52. รักษาโรคกระเพาะ เปลือกผลมะนาว ใช้ชงกับน้ำอุ่ม ดื่มเป็นยาขับลมและแก้โรคกระเพาะได้ 
          53. แก้ท้องผูก ใช้มะนาว ประมาณค่อนแก้วกาแฟ ใส่เกลือเล็กน้อย ให้เค็มพอประมาณ ดื่มทุกวันเป็นยาระบายได้ดี ทำให้เจริญอาหาร 
          54. แก้ท้องร่วง ประเทศอินเดีย ใช้น้ำมะนาวกับน้ำสะอาดดื่มแก้ท้องร่วง 
          55. แก้อาหารเป็นพิษ น้ำมะนาว น้ำปูนใส เติมเกลือให้มีรสเค็ม กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ แก้อาหารเป็นพิษ 
          56. แก้ผิดสำแลง – รากมะนาว ฝนกับน้ำซาวข้าวรับประทานแก้ผิดอาหาร ถ้าได้รากมะนาวหวานยิ่งดี – เอามะนาวบีบเอาน้ำใส่ถ้วย แล้วเอาปูนกินหมากมาแช่น้ำ แล้วเอาน้ำใสๆของปูนมาผสมน้ำมะนาว แล้วรับประทานแก้กินของผิดได้เป็นอย่างดี 
          57. แก้บิด – ใช้มะนาวกับน้ำผึ้งเอาเท่าๆกัน กินครั้งละ 1 ถ้วยตะไล สัก 2-3 ถ้วย แก้บิดได้ หรือจะผสมน้ำปูนใส อย่างละเท่าๆกัน ก็ได้ผลเช่นกัน – ชาวมาเลเซียใช้รากมะนาวต้มกินแก้บิด 
          58. ขับพยาธิไส้เดือน ชาวอินเดียใช้น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งดื่มขับพยาธิไส้เดือน 
          59. แก้นิ่ว เอามะนาวมา บีบมะนาวแช่หินปูน หากหินปูนละลาย ก็เอารากมะนาวนั้นมาต้มกิน แล้วนิ่วก็คือหินปูนในกระเพาะปัสสาวะจะอยู่ได้อย่างไรก็ต้องละลายออกมาหมดอย่างแน่นอน หากนิ่วก้อนใหญ่ก็ต้องใช้เวลาหน่อย 
          60. แก้ปัสสาวะกระปริบกระปรอย ใช้ใบมะนาวสดต้มกินกับน้ำตาลแดง ประมาณ 2-3 วันก็หาย 
          61. แก้ระดูขาว น้ำมะนาว 2 ช้อน เกลือ น้ำตาลนิดหน่อย ผสมน้ำสุก ใส่น้ำแข็งรับประทานแก้และรักษาสตรีมีระดูขาวมากๆ 
          62. ฟอกโลหิต ใช้ใบมะนาว 7 ใบ ต้มผสมกับน้ำ กินครั้งละ 3 ถ้วยชา วันละ 3 เวลา ได้ผลดี 
          63. แก้โลหิตจาง ให้เอาผลมะนาวผ่าซีก บีบเอาเฉพาะน้ำ ผสมกับน้ำหวานแล้วปรุงด้วยเกลือทะเลพอสมควร ใส่น้ำแข็ง ใช้รับประทานบ่อยๆ เป็นยาบำรุงโลหิต แก้โลหิตจาง และทำให้มีฟิวพรรณผุดผ่องมีน้ำมีนวล 
          64. แก้เหน็บชา ให้เอาลูกมะนาวเท่าอายุคนป่วย ใช้มีดบางคมๆ ผ่าสองเอาหนึ่ง ส่วนที่ไม่เอาแล้วแต่เราจะเอาไปทำอะไร ให้เอาน้ำตาลทรายขาว 1 ลิตร เกลือ 1 ลิตร เอาน้ำ 4 ลิตร ต้มให้เดือด ยกลง พอเย็นหน่อยก็เทใส่ไห แล้วจึงเอามะนาวส่วนที่เอาเทลงดองไว้ในไห ปิดปากไห ไปฝังไว้ในข้าวเปลือก 7 วัน แล้วเอาน้ำมากินให้หมด แล้วเอากากไปตำตากแดดให้แห้ง เอามากินให้หมด โรคเหน็บชาจะหายไป 
          65. แก้ร้อนในกระหายน้ำ มะนาวสามารถแก้ความกระหายได้ดี กินน้ำมะนาวใส่น้ำแข็งแล้ว จะรู้สึกชุ่มคอ 
          66. แก้อ่อนเพลีย – ใช้มะนาว 1 ผลครึ่ง บีบเอาแต่น้ำใส่แก้ว แล้วใส่น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำให้ได้ประมาณครึ่งแก้ว กะให้หวานพอดี ดื่มให้หมด จะรู้สึกกระชุ่มกระชวยดี – เวลาฟื้นจากไข้ทานอาหารไม่อร่อยหรือไม่อยากทานอะไรเลยต้องแก้ด้วยอาหารที่มีรสเปรี้ยว ใส่มะนาวหรือชงน้ำมะนาวดื่ม หรือกินมะนาวจิ้มยาหอม หรือกินมะนาวจิ้มเกลือ 
          67. เป็นยาอายุวัฒนะ – ใช้มะนาว 1 ลูกผ่าออกเอาเม็ดท้อง แล้วคั้นเอาน้ำชงกับน้ำตาล 2 ช้อน และน้ำร้อนพอควร ทำให้แข็งแรงและชุ่มชื่นในลำคอ – ใช้มะนาว 50 ผล น้ำผึ้ง 1 ขวดขาว พริกไทยร่อนครึ่งลิตรเล็ก ตำพริกไทยให้ป่น ใส่ผ้าขาวบางห่อ ใส่โหลดองรวมกันประมาณ 3 วัน นำมากินได้เป็นยาอายุวัฒนะ 
          68.ยาเจริญอาหาร เอามะนาว 30 ลูกผ่าซีกทั้งเปลือกแล้วเอายาดำหนัก 5 บาท ใส่ดีเกลือเล็กน้อย หร้อมกับเกลือแกงอีกพอประมาณจนรู้สึกว่ามีรสเค็ม เอายาทั้งหมดใส่ขวดโหลดองไว้ประมาณ 3 คืน รับประทานมีสรรพคุณทำให้เป็นยาระบายถ่ายพยาธิ และเจริญอาหาร 
          69. แก้ความดัน เอาใบมะนาว 108 ใบ ต้มรับประทานแก้โรคความดันต่ำและสูง 
          70. แก้ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ (โรครูมาติซั่ม) ให้ดื่มน้ำมะนาว ดังนี้ วันที่ 1 ให้ดื่มน้ำมะนาว 2 ผล วันที่ 2 ให้ดื่มน้ำมะนาว 4 ผล แบ่งให้วันละ 2 ครั้ง วันที่ 3 ให้ดื่มน้ำมะนาว 6 ผล แบ่งให้วันละ 3 ครั้ง ให้เพิ่มมะนาวเรื่อยๆจนถึงวันที่ 10 ซึ่งใช้มะนาว 20 ผล แบ่งให้วันละ 5 ครั้ง วันที่ 11 ให้ดื่มน้ำมะนาวใหม่ 2 ผล วันที่ 12 ให้ดื่มน้ำมะนาวใหม่ 4 ผล แบ่งให้วันละ 2 ครั้ง ให้เพิ่มมะนาวเรื่อยๆจนถึงวันที่ 20 ซึ่งใช้มะนาว 20 ผล แบ่งให้วันละ 5 ครั้ง 
          71. ลดความอ้วน การดื่มเครื่องดื่มต้องใส่น้ำตาลน้อยที่สุด และควรดื่มวันละ 8-10 แก้วทุกวัน ตื่นเช้าควรดื่มน้ำมะนาว 1 ผล ในน้ำอุ่นและขนมปังไม่เกิน 1 แผ่น ก่อนอาหารทุกมื้อควรดื่มน้ำมะนาวครึ่งผลผสมน้ำเย็น ก่อนอาหารกลางวันและอาหารเย็นจะช่วยให้อิ่ม อย่าให้ดื่มขณะที่ทานอาหาร ถ้ารู้สึกหิวก่อนเวลาอาหารไม่ว่ามื้อใด ให้รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือน้ำส้ม น้ำมะนาวสักแก้ว 
          72. ใช้ในครัวเรือน – หุงข้าวให้ขาวและอร่อย บีบน้ำมะนาว 2-3 ช้อนในข้าว แล้วนำไปซาวข้าว เมื่อหุงเสร็จข้างจะขาว สะอาด กินอร่อย ไม่ออกรสมะนาวเลย – นิ้วมือเวลาเด็ดผักหรือหั่นผัก เนื้อใกล้ๆเล็บมือจะเป็นสีดำมองดูน่าเกลียด ใช้มะนาวถูจะแก้ได้ – เวลาใช้มีดผ่าปลีกล้วย มีดจะเป็นสีม่วงคล้ำ ใช้มะนาวผ่าซีกถูตามใบมีด มีดจะสะอาดดังเดิม – ทอดไข่เจียวให้ฟูและนิ่ม ขณะตีไข่ให้ใส่มะนาว 4-5 หยด ไข่จะฟูและนิ่ม – การเชื่อมกล้วยหักมุกให้น่ารับประทาน พอน้ำตาลเดือดเป็นยางมะตูม ให้บีบมะนาวครึ่งซีกตาม แต่กล้วยมากหรือน้อยจะช่วยให้กล้วยใสน่าทาน – ถ้าต้มปลาสด ต้องการให้ปลาคงรูปไม่เละ ไม่มีกลิ่นคาว ควรบีบมะนาวลงไปสักนิดหน่อย – ใช้มะนาว 2-3 ผล แทรกไว้ในข้าวสาร จะช่วยป้องกันมอดได้ – เปลือกมะนาวใช้เช็ดภาชนะ ทองเหลือง ทองแดง เครื่องเงิน เครื่องนาค เครื่องเงินจะใหม่ เงางามสุกใสขึ้น

– ฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆ 2-3 ลูกใส่ในน้ำเย็น 1 ป๋อง ประมาณ 10 ลิตร เติมการบูร 2 แท่ง ตั้งทิ้งไว้ในห้องที่ทาสีใหม่ๆ ปิดประตู หน้าต่างให้หมด น้ำมะนาวและการบูรจะช่วยดูดกลิ่นสีได้อย่างดี – ผ้าที่เปื้อนน้ำหมาก เปื้อนหมึก ใช้น้ำตาลทรายเล็กน้อย โรยตรงรอยเปื้อนหยดน้ำลงไปพอชุ่ม แล้วถูด้วยมะนาวจะลบรอยเปื้อนได้ – เตารีดร้อนจัดรีดผ้าขาวจะทำให้ผ้าเหลือง ให้เอาน้ำมะนาวทาที่เตารีด ก่อนรีดผ้าจะแก้ได้ – ต้มผ้าให้สะอาด ฝานมะนาว 2-3 ชิ้น ใส่ด้วย ช่วยให้ผ้าสะอาด – ใช้มะนาว เกลือป่น ถูบริเวณที่เสื้อขาวเปื้อนเลือด ซักด้วยน้ำเย็นจะออกหมด – เครื่องใช้ที่เป็นหนังทิ้งไว้นานหลายปีทำให้แข็งกระด้าง เอาน้ำมะนาวขัดถู ทำให้หนังนิ่มแล้วใช้ยาขัดอีกที จะทำให้ดูใหม่ขึ้น

http://blog.eduzones.com/wanwan/15775

ปูนแดงและประโยชน์

ก่อนจะมาเป็นปูนแดง  ปูนขาว เป็นวัสดุที่ได้จากการเผาหินปูน (แคลเซียมคาร์บอเนต) โดยใช้ความร้อนสูง จะได้เป็นปูนสุก (แคลเซียมออกไซด์, CaO) เมื่อเย็นตัวลงแล้วพรมน้ำให้ชุ่ม ปูนสุกจะทำปฏิกิริยากับน้ำได้เป็น แคลเซียมไฮดรอกไซด์ ส่วนที่เป็นผงแห้งได้เป็น ปูนขาว …. ปูนแดง ได้มากจากการผสมปูนขาวกับผงขมิ้น (มาถึงตรงนี้ผมก็ งงๆกับวลีที่ว่า ขมิ้นกับปูน เข้ากันไม่ได้ ) จากนั้นทางปฎิกริยาเคมี ก็จะเปลี่ยนปูนขาวเป็นสีแดง เลยเรียกว่าปูนแดง

จาก  CaO + H2O = Ca(OH)2    ก็คือเอาปูนขาวหรือปูนแดง ผสมกับน้ำ ก็จะได้ สารละลาย แคลเซียมไฮดรอกไชค์ หรือน้ำปูนใสนั่นเอง (คุณสมบัติเป็นด่าง)  คุณสมบัติของสารละลายตัวนี้ก็คือ เมื่อจับตัวกับก๊าช คาร์บอนไดอ๊อกไชค์ จะได้ผลึกหินปูนเล็กๆ

จากหลักการนี้เอง  เราทราบว่าในท่อน้ำเลี้ยงของพืชมีก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไชค์อยู่  เมือน้ำพืชเหล่านั้นเช่น  กล้วย ฝักทอง ไปแช่น้ำปูนใส  ก็จะเกิดผลึกหินบูนเล็กๆในท่อน้ำเลี้ยงทำให้อาหารมีความกรอบ

คนโบราณนี่ท่านเก่งจริงๆนะ

น้ำปูนใส คือ  น้ำที่เราเอาน้ำไปผสมกับปูนแดงที่คนเฒ่าคนแก่ท่านเอาไว้ทานกับหมาก แล้วปล่อยให้ตกตะกอน แล้วเราก็ใช้น้ำส่วนที่ลอยเหนือปูนที่ตกตะกอนเอามาใช้

ประโยชน์

๑. รักษาฝี ถ้าฝีที่เริ่มเป็น ให้ทาปูนแดง บริเวณที่เป็นฝีให้ทั่ว รวม ทั้งหัวฝีด้วย หัวฝีจะแห้งในที่สุดจะยุบ แต่ถ้าฝีบวมมากหรือเป็นมานาน แล้ว ให้ทาเฉพาะฐานฝี อย่าทาทับหัวฝี เพราะจะทำให้ปวดมาก เมื่อปูน แห้งลงจะรัดทำให้หนองและหัวฝีออกเร็ว แลหายเร็วขึ้น วิธีที่ใช้ง่าย ที่สุดก็คือ เอาปูนมาผสมน้ำพอข้นๆ ทาแต่วิธีนี้ปุนจะแห้งเร็วเกินไป จึงมักใช้น้ำตาลปีป หรือน้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม จำนวนเท่ากับปูนแดง ผสมให้เข้ากัน แล้วจึงทา จะทำให้ปูนแห้งช้าขึ้น ทาวันละ ๒-๓ ครั้ง

๒. แผลไฟไหม้ ใช้ปูนแดง ( ต้องไม่มีสีเสียดปน) นำมาป้ายบริเวณ ที่ถูกน้ำร้อนลวก หรือไฟลวก ป้ายให้หนาๆหน่อย และเมื่อหายก็จะไม่ มีแผลเป็นให้เห็นอีกด้วย หรือใช้ปุนแดงหรือปูนขาวก้อนเท่านิ้วหัวแม่ มือ ใส่ในน้ำเย็น ๑ แก้ว คนให้ทั่ว ตั้งไว้ให้นอนก้น เทน้ำใสผสมกับน้ำ มันมะพร้าว (หรือน้ำมันถั่ว) ทีละน้อยๆ เติมไปคนไป จนน้ำมัน กลาย เป็นฝ้าขาวไปหมด จึงหยุดคน น้ำมันผสมเช่นนี้ ใช้ทาแก้แผลถูก น้ำร้อนลวกได้ดี
.

๓. รักษาแผล เมื่อถูกมีดบาด หรือของมีคม ใช้ยาสุบ(ยาเส้น) กับ ปูนแดงแล้วปิดปากแผล เลือดจะหยุดไหล และแผลจะหายในเวลาต่อมา ถ้าเป็นแผลใหม่ แต่รู้สึกว่ามีขอบแผลเขียว ท่านให้เอาน้ำมันมะพร้าว พอควร แล้วเอาปุนแดงใส่กวนพอข้น พอปิดแผลอยุ่ หมั่นปิดไม่กี่วัน ทุเลาได้
.

๔. แผลแตกที่หัวนม เอาน้ำปูนใส กับน้ำอย่างละเท่าๆกัน เขย่า ให้เข้ากันดี ทาแผลที่แตกที่นม
.

๕. แก้โรคบิด เอาเนื้อมะขามเปียก ตำให้ละเอียดผสมกับปูนแดง พอควร ปั้นเป็นลูกกลอน กินวันละ ๓ เวลาก่อนอาหาร โรคบิดจะหาย ไป 
.

๖. แก้แผลทากหรือปลิงกัด เอาปูนขาวหรือปูนแดง ที่กินกับหมาก ทาตรงบาดแผลนั้น เลือดจะหยุดไหลทันที

.

๗. รักษาน้ำกัดเท้า ใช้ปุนแดงผสมน้ำมันมะพร้าวพอควร แล้วทา ก่อนลงน้ำทุกครั้ง น้ำจะไม่กัดเท้าอีกเลย ที่กัดแล้วก็จะหายไปหมด

.

๘. แก้หูด ดูว่าหูดเม็ดไหนขึ้นก่อนเพื่อน เกาให้เลือดซึม แล้วนำปูน แดงทาทับไว้ ไม่ให้เลือดซึมออกมา เพราะถ้าซึมออกมาถูกบริเวณอื่น มันจะลุกลามทำไปเรื่อยๆ ในไม่ช้าก็จะหาย

.

๙. รักษาโรคผิวหนัง เอาปุนแดงปันเป็นก้อน แล้วนำไปเผาไฟ ให้สุกดี แล้วละลายกับน้ำมันหมู ใช้ทารักษาโรคผิวหนังทั่วไป

.

๑๐. แก้คันในที่ลับ เอาน้ำปูนใสกับน้ำอย่างละเท่าๆกัน เขย่าให้เข้า กันดี ใช้ทาแก้คันในที่ลับ ฉีดล้างช่องคลอด

.

๑๑. แก้กลิ่นเต่า นำตำลึงสดๆ(เถาหรือใบก็ได้) ตำผสมกับปูนแดง ปริมาณไม่ต้องมาก ทาที่รักแร้ กลิ่นที่เคยมีก็หมดไป

.

๑๒. แก้พิษแมลงกัดต่อย เอาปูนแดงป้ายที่แผล จะทุเลาอาการเจ็บ ปวดและยุบบวม

.

๑๓. แก้พิษแมงกะพรุนไฟ ให้ทาด้วยน้ำปูนใสบ่อยๆ

.

๑๔. แก้ยุงกัด ใช้ปูนแดงแต้มบริเวณที่ถูกกัดเบาๆ นิดเดียวจะไม่คัน และไม่ขึ้นตุ่ม

.

๑๕. แก้ข้ออักเสบ ใช้น้ำละลายปุนแดง ทาบริเวรเข่า จะช่วยลด การอักเสบ ทำให้หายเร็วขึ้น

.

๑๖. แก้ถูกยาเบื่อ ใช้น้ำปุนใสขนาด ๑ ถ้วยชา กินแก้ถูกยาเบื่อ และของเมาต่างๆหาย
.

(แหล่งที่มา: ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและพระพุทธศาสนา )
http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/12/D10056405/D10056405.html