ท้าวความโดยย่อ :
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกได้เข้าสู่ยุคสงครามทางอุดมการณ์ระหว่างค่ายคอมมิวนิสต์ที่มีสหภาพโซเวียตเป็นผู้นำ กับค่ายทุนนิยมเสรีที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ สงครามดังกล่าวถูกเรียกขานกันในนามว่า “สงครามเย็น”
ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่เข้าไปพัวพันกับสงครามเย็นอย่างลึกซึ้งผ่านสงครามอินโดจีน บวกกับการเข้ามาของทหารสหรัฐฯ จำนวนมากเพื่อตั้งฐานทัพในประเทศ
นับตั้งแต่เกิดการปฏิวัติสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นเมื่อปี 2492 รัฐบาลไทยก็ได้นำพาประเทศเข้าไปผูกพันกับสหรัฐฯ มากขึ้น มีการสร้างกลไกและหน่วยงานต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย เพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ รวมทั้งออกกฎหมายป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ในปี 2495
เมื่อจอมพลสฤษดิ์ขึ้นมามีอำนาจเบ็ดเสร็จหลังทำรัฐประหารยึดอำนาจของจอมพล ป. พิบูลสงคราม นโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์และระดับความสัมพันธ์กับรัฐบาลอเมริกันก็ได้พัฒนาไปอย่างลึกซึ้งในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยสฤษดิ์ได้จัดระบบในสำนักนายกรัฐมนตรีเสียใหม่เพื่อกระชับอำนาจในการวางนโยบายและควบคุมข้าราชการให้เข้ามาอยู่ในความดูแลของนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ ส่งผลให้นโยบายการต่อต้านปราบปรามคอมมิวนิสต์ถูกรับไปปฏิบัติโดยหน่วยงานต่าง ๆ อย่างมีเอกภาพมากขึ้น Continue reading