Tag Archives: บำรุงร่างกาย

เคล็ดลับสุขภาพ 12 ข้อ จากแพทย์จีน หากทำได้ รับรองไม่เจ็บป่วย ไกลโรคภัย

1. หวีผมบ่อยๆ : หวีผมเบาๆ บ่อยหน่อยช่วยให้ตาสว่าง และรากผมแข็งแรง (ใช้หวีซี่ห่างหน่อย แปรงเบาหน่อย เพื่อกันผมหลุด)

2. ถูใบหน้าบ่อยๆ : ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นใช้ฝ่ามือ 2 ข้างถู หน้าเบาๆ บ่อยหน่อยเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ใบหน้าเปล่งปลั่ง

3. เคลื่อนไหวดวงตาบ่อยๆ : ให้มองไกล-มองใกล้ มองข้างนอก-ข้างใน มองบน-มองล่าง หลีกเลี่ยงการมอง หรือจ้อง อะไรนานๆ โดยเฉพาะคนที่ทำงานคอมพิวเตอร์ควรพักสายตาด้วยการมองไกลอย่างน้อยทุกชั่วโมง

4. กระตุ้นใบหูบ่อยๆ : การดึงหู ดีดหู บีบหู ถูใบหูเบาๆ บ่อยหน่อย ช่วยบำรุงตานเถียน(จุดฝังเข็ม) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เก็บพลังงานของร่างกาย (ใต้สะดือ) สัมพันธ์กับไต ซึ่งเปิดทวารที่หู ทำให้แรงดี ป้องกันเสียงดังในหู หูตึง และอาการเวียนหัว Continue reading

ยาอายุวัฒนะ : บำรุงร่างกาย

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 16

ยาขนานนี้เป็นของสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ท่านบันทึกไว้แต่ปี 2409
เป็นตำรายาที่ขึ้นชื่อมาก ส่วนมากหมอยาในกรุงเทพ ฯ และภาคกลางล้วนรู้จักและปรุงกินกันมาก แต่ท่านว่าอายุหนุ่มน้อยกินไม่สู้ดี เพราะธาตุไฟแรงจะเผาร่างกายให้ผ่ายผอม เหมาะสำหรับคนอ้วนต้องการลดความอ้วนกินยานี้น่าจะดี ตัวยามีดังนี้

  • เปลือกทิ้งถ่อน
  • เปลือกตะโกนา
  • เถาบอระเพ็ด
  • เมล็ดข่อย
  • หัวแห้วหมู
  • หัวกระชาย
  • พริกไทยล่อน

ยาทั้งหมดสัดส่วนเท่ากัน ตากแห้งบดผงผสมน้ำผึ้งกินก่อนนอน วันละ 1-2 เม็ด ท่านว่ากินได้ 1 เดือนตัว
พยาธิ์ลำไส้ออกมาหมด หายจากอาการปวดเมื่อยอ่อนเพลียโดยไม่ต้องอาศัยหมอนวดบีบ การหมุนเวียนโลหิตดี เลือดลมไหลสะดวก เรื่องอย่างว่าก็สู้บ่ยั่นเหมือนกัน ถ้าเป็นพระทำฉันให้งดกระชายเสีย เพราะเป็นยาบำรุงกามารมณ์

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 20

  • หัวขิงแห้ง
  • หัวไพล
  • หัวกะทือ
  • หัวกระชาย
  • หัวแห้วหมู
  • รากแจง
  • หัวยาข้าวเย็นเหนือ
  • หัวยาข้าวเย็นใต้
  • เนื้อมะขามเปียก
  • พริกไทยล่อน
  • เกลือแกง

เอายาทั้งหมดนี้มาตำเข้าด้วยกัน แล้วใส่โหลหรือกระปุกเก็บไว้รับประทานก่อนอาหาร หรือก่อนนอน เป็นยาขับถ่ายสิ่งโสโครกออกจากร่างกาย ถ้ารับประทานประจำโรคภัยหายหมด ผิวพรรณวรรณะก็ดีงาม กลิ่นตัวกลิ่นปากหรืออื่น ๆ จะหายไปหมด

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 21 บำรุงร่างกาย

ยานี้ชื่อยากำลังราชสีห์ ตัวยามี 5 อย่างด้วยกันคือ

  • เถาบอระเพ็ด
  • หัวแห้วหมู
  • หัวกระชาย
  • พริกไทยล่อน
  • เกลือสะตุ

เอาตัวยาทั้งหมดมาตำเข้าด้วยกันแล้ว ใส่โหล ใส่สุราให้ท่วมยา ปิดให้สนิทแล้วนำไปฝังโคลนที่ชายน้ำในวันแรม 14 ค่ำ พอขึ้น 15 ค่ำของอีกเดือนหนึ่งจึงไปขุดขึ้นมารับประทาน ก่อนอาหารเย็นครั้งละ 1 ถ้วยตะไล จะแข็งแรง ปราศจากโรคภัยทั้งปวง จะมีกำลังดุจหนุมาน คำว่าแก่จะไม่มี ท่านว่าผู้มีบุญวาสนาเท่านั้นจึงได้รับประทาน แต่เรื่องการหมักโคลนนั้นมีเหตุผลทีต้องการความเย็น สมัยนี้ใส่ตู้เย็นย่อมเหมาะสมกว่า

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 30

  • พริกไทย 7 เม็ด
  • พริกขี้หนูแห้ง 7 เม็ด
  • ขิง 7 แว่น
  • ข่า 7 แว่น
  • ข้าวสาร 7 เม็ด
  • น้ำมันมะกอก 7 หยด
  • น้ำมันจันท์ 7 หยด 8. กล้วยน้ำว้าสุก 7 ลูก

เอามาตำให้แหลกจนเข้ากันดีแล้วผสมน้ำผึ้ง ให้ทำวันแรม 7 ค่ำ กินวันละ ลูกพุทรา กำลังดีมาก

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 31

เอารากกะทกรกมาต้มกิน เวลาไปขุดรากกะทกรกให้ไปขุดวันอังคาร พอถึง 3 อังคารแล้วให้ต้มกิน ระหว่างที่ต้มหม้อที่ 1 นั้นก็ไปขุดในวันอังคารอีก 3 อังคาร รวมเป็น 6 อังคาร พอถึงวันอังคารที่ 7 ให้ต้มกิน รวมเป็น 2 หม้อ ต้มกินต่างน้ำชาก็ได้ เวลาขุดรากกะทกรกนั้นไม่ว่าจะได้มากหรือน้อยท่านให้คอนกลับบ้านแล้วเอามา แขวนไว้จนครบ 3 อังคาร และ 7 อังคาร ยานี้ต้องทำของใครของมัน จะให้คนอื่นทำให้ไม่ได้

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 33

  • ต้นพญามุติทั้งห้า หนัก 8 ตำลึง
  • สมอไทย 1 ตำลึง
  • พริกไทยล่อน 1 ตำลึง
  • ดอกดีปลี 1 ตำลึง
  • เหง้าขิงแห้ง 1 ตำลึง

ตำเป็นผงผสมน้ำผึ้ง และน้ำนมวัว วิธีทำต้องเอาน้ำนมวัวและน้ำผึ้งมาต้มเคี่ยวจนงวดพอสมควรก็เอายาลงผสมคนให้เข้ากันดีแล้วก็ยกลง พอเย็นแล้วจึงปั้นเท่าเม็ดพุทรา รับประทานเช้าเย็นครั้งละ 1 เม็ด รับประทานได้ 2 เดือนโรคลมจะหาย หูจะได้ยินถนัด ตาจะสว่าง ผิวพรรณจะสวยงาม ร่างกายจะแข็งแรง
ร.ต.อ.เปี่ยมเล่าว่า เดิมที่ได้ตำรายานี้มา หลวงศรีเทพบาล บ้านอยู่สะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี ได้เล่าว่ามี
พระรูปหนึ่งธุดงค์มาแต่เมืองตะวันตก มาพักอยู่ที่วัดเสาวคนธ์ กรุงเทพ ฯ บอกว่าอายุ 70 ปี แต่ดูร่างกายท่านยังหนุ่มมาก หลวงศรีเทพบาลจึงขอตำรายาที่ท่านฉัน เมื่อได้มาแล้วก็ยังไม่ได้ทำ เพราะไม่รู้จักต้นพญามุติ จนมาถึง พ.ศ.2459 มีพระรูปหนึ่งได้นำต้นพระยามุติมาให้ดู และได้ทำยารับประทานตั้งแต่นั้นมา

ร.ต.อ.เปี่ยมเล่าว่าท่านได้ทำยาขนานนี้รับประทานได้ 2-3 เดือน ลมออกหูก็หาย หูได้ยินชัดเจนดี ตาที่มัวก็กลับอ่านหนังสือได้ หน้าที่เคยเป็นฝ้าด่างดำก็หายไป ร่างกายก็แข็งแรง หลับสนิทดี
ท่านบอกลักษณะต้นพระยามุติว่า ใบของมันคล้ายใบตั้งอ้อ ดอกคล้าย ๆ ตุ้มหู หรือคล้ายดอกผักกาดดอกแบนสีเหลือง ถ้าขึ้นตรงพื้นดินสมบูรณ์ต้นจะสูงถึง 2 ศอกเศษ ชอบขึ้นตามหาดทราย หรือดินปนทราย ใช้ทำแกงเลียงกินได้ บางคนเรียกต้นออ มีมากในเดือน ยี่-3

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 34 บำรุงร่างกาย

  • ขมิ้นอ้อย
  • ผักเสี้ยนผี
  • โคกกระสุน
  • หัวแห้วหมู

ตากแห้งบดเป็นผงผสมน้ำผึ้ง กินก่อนนอนวันละ 1 เม็ดพุทรา ทำให้เจริญอาหาร แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 35.บำรุงร่างกาย

ให้เอารากข่อยมาต้มกินแทนน้ำ ช่วงแรกที่กินผิวจะดำคล้ำและลอกออกมาคล้ายงูลอกคราบ กินต่อไปเรื่อย ๆ รูปร่างจะเปลี่ยนแปลง ผิวพรรณผุดผ่องอ้วนท้วนสมบูรณ์ ผู้กินยานี้อายุได้ 160 ปี

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 36. บำรุงสายตา

เอาหัวแห้วหมูมาล้างให้สะอาด แล้วคั่วไฟ แล้วทุบให้แตก นำมาชงดื่มแบบน้ำชา แก้ปวดเมื่อยอ่อนเพลีย ร่างกายแข็งแรง ตาสว่างดุจคนหนุ่ม ฟันทนแข็งแรง ร่างกายกลับเป็นหนุ่มสาว

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 37 บำรุงร่างกาย

  • กำลังวัวเถลิง หนัก 3 บาท
  • เปลือกตะโกนา หนัก 3 บาท
  • เปลือกทิ้งถ่อน 3 บาท
  • เขากวางอ่อน 3 บาท
  • แสมทะเล 3 บาท
  • เมล็ดข่อย 3 บาท
  • รากส้มกุ้งใหญ่ 2 บาท
  • รากส้มกุ้งน้อย 2 บาท
  • หัวบัวขม 2 บาท
  • ฝางเสน 2 บาท

เอาตัวยาทั้งหมดมาตำพอแหลก แล้วห่อผ้าขาวดองสุราไว้ 7 วัน กินวันละ 1 จอก หลังอาทิตย์ตกดิน

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 38

  • เมล็ดข่อย
  • พริกไทยล่อน
  • หัวแห้วหมู
  • หัวบัวขม
  • หัวกระชายแก่
  • ผักเสี้ยนผี
  • โคกกระสุน
  • เนื้อสมอทั้ง 3 อย่างละ 10

เอามาทุบดองสุรา กินก่อนอาหารเย็น กินประจำอายุยืนถึง 100 ปี แข็งแรงทำงานหนักได้ดุจคนหนุ่ม

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 41 ยาผิวงาม

เอาน้ำมะนาวเปรี้ยวจัด 1 ถ้วยตะไล ผสมกับน้ำสุก 1 แก้ว ผสมเกลือป่น 1 ช้อนกาแฟ คนดีแล้วดื่มจนหมดแก้ว ก่อนอาหารเช้าสัก 30 นาที กินติดต่อกัน 15 วัน และหยุด 10 วันจึงเริ่มดื่มใหม่ติดต่อกัน 3 วัน และหยุด 1 เดือนจึงเริ่มดื่มอีก วันละ 1 จอกแก้วยาดอง ท่านว่ารับรองผิวขาวเป็นนวลใย ไร้ไฝฝ้า

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 44 ยาลายแทง

ตำรานี้ได้จากลายแทงขุมทรัพย์เมืองพิษณุโลก ท่านเขียนเป็นปริศนาไว้ บอกว่าถ้าใครคิดได้ให้ขุดลงไปจะได้ทองคำ 1 ตุ่ม คนมีปัญญาคิดได้จึงขุดลงไปก็พบตุ่มใบหนึ่งพร้อมกับใบลานจารึกตำรายาขนานนี้ ท่านเขียนไว้ให้ทานแก่สมณชีพราหมณ์และหญิงชายทั้งปวง ถ้าผู้ใดพบตำรานี้ขอให้บอกต่อ ๆ กันไปจะได้ผลานิสงส์มาก ตำรามีว่า

  • รากช้าพลู 2 ตำลึง
  • รากมะแว้งต้น 2 ตำลึง
  • รากมะแว้งเครือ 2 ตำลึง
  • รากมะเขือขื่น 2 ตำลึง
  • เถาบอระเพ็ด 2 ตำลึง
  • รากเจตมูลเพลิง 1 ตำลึง

ให้เอายาทั้งหมดมาตำเป็นผงแล้วผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำอ้อยแดงก็ได้ ใส่หม้อผนึกไว้ให้ดี เอาทองแดงผูกคอ

หม้อหนัก 1 บาท แล้งฝังข้าวเปลือกไว้ 5 วัน แล้วรับประทานวันละ 1 ช้อนหอย สามารถแก้โรคทั้งปวง ผมหงอกจะกลับดำ อายุยืนถึง 100 ปี มีกำลังเจ็ดช้างสาร สำเนียงเสียงใส รูปงาม หาโรคมิได้ ถ้ารับประทานติดต่อกัน 6 เดือน สารพัดสัตว์ที่มีพิษกัดไม่เข้าเลย ถ้าเอาน้ำมูตร(ปัสสาวะ)ใส่ตุ่มไว้ เอาทองแดงแผ่ให้บางแช่ในน้ำมูตร(ที่เกิดจากกินยานี้) นาน 3 เดือน ทองแดงจะกลายเป็นทองคำธรรมชาติไม่มีขี้เลย ถ้าไม่จริงดังกล่าวขอให้ตัวข้าพเจ้าผู้ไว้ตำรานี้ตกจตุราบายเทอญ.

ยาตำรับนี้ตรงกับตำรับที่ 2 ที่เป็นตำราเหนือ ความจริงในตำรับนั้นท่านบอกเป็นภาษาเหนือ แต่ผู้เขียนได้แปลให้เป็นภาษาไทยแล้ว ก็ตรงกับตำรับนี้ เป็นตำรับยาที่เกิดและถ่ายทอดในสมัยเดียวกัน เพราะเมืองพิษณุโลกและเชียงใหม่ เชียงราย เชียงแสน รวมไปถึงพระสงฆ์ทางพม่าได้ไปมาหาสู่กันไม่ขาด พระสงฆ์ก็ไป ๆ มา ๆ เพราะทางเชียงใหม่เลื่อมใสพระสงฆ์ทางสุโขทัย จึงนิมนต์พระทางสุโขทัยไปเผยแพร่พระศาสนา และเป็นสังฆราชาอยู่ทางโน้นในสมัยพระเจ้ากือนา ทางพิษณุโลกก็ได้สุโขทัยเป็นหลักเช่นกัน ตำรายามักเผยแพร่ไปกับพระสงฆ์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชุมชนทุกหนทุกแห่ง และเป็นศูนย์กลางของการศึกษาด้วยเช่นกัน คนทางเหนือไม่สู้นิยมทำลายแทงเหมือนชาวพิษณุโลก มักเขียนใส่ใบลานเก็บใส่ตู้ไว้ตามวัดต่าง ๆ และบนหิ้งบูชาในบ้านของตนเองรวมกับคาถาอาคมอื่น ๆ จึงมักพบตำราลายแทงในเมืองพิษณุโลกและกำแพงเพชรเป็นส่วนมาก

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 45 แก้มือเท้าชา

ท่านให้เอาบอระเพ็ดพุงช้าง (สบู่เลือดเถา) มาหั่นตากแดดพอหมาด แล้วแช่กับน้ำตาลทรายแดงหรือสุราก็ได้ รับประทานเช้า-เย็น แก้มือเท้าชา แก้ปวดเมื่อยอ่อนเพลีย

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 46

ท่านให้เอากล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี ปอกเปลือกออกแล้วใส่โหล เอาน้ำผึ้งใส่ให้ท่วมกล้วย ดองไว้ 15 วัน แล้วรับประทานก่อนอาหารวันละ 1 ลูก บำรุงกำลัง บำรุงประสาท แก้โรคเบาหวาน นอนหลับสนิทดี

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 47

  • หัวแห้วหมู
  • รากแจง
  • สมอไทย
  • สมอพิเภก
  • สมอเทศ
  • สมอดีงู
  • กระเทียม
  • ดอกดีปลี
  • ขิงแห้ง
  • หัวข่าเล็ก
  • เถาบอระเพ็ด
  • มะขามป้อม

เอาสิ่งละเท่ากัน ต้องตากแห้งก่อนแล้วทำเป็นผง ผสมน้ำผึ้ง รับประทานหลังอาหารเย็น ครั้งละ ปลายนิ้วก้อย เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้โรคลม ริดสีดวงทวาร ริดสีดวงลำไส้ ทำให้เจริญอาหาร นอนหลับสบาย ร่ายกายแข็งแรง

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 48 ปรับธาตุให้สมบูรณ์

ยาขนานนี้นอกจากเป็นยาอายุวัฒนะแล้วยังเป็นยารักษามะเร็งและโรคเรื้อรังได้อีกด้วย

  • รากแจง 1 ขีด
  • หัวไพล 1 ขีด
  • ขิงแห้ง 1 ขีด
  • หัวกะทือ 1 ขีด
  • หัวกระชาย 1 ขีด
  • พริกไทยล่อน 1 ขีด
  • ข้าวเย็นเหนือ 1 ขีด
  • ข้าวเย็นใต้ 1 ขีด
  • หัวแห้วหมู 1 ขีด
  • เกลือทะเล 2 ขีด

ทำเป็นผง ส่วนเกลือนั้นให้คั่วเสียก่อนแล้วนำมาตำให้ละเอียด จึงเอาทั้งหมดผสมกัน แล้วผสมน้ำผึ้ง รับประทานหลังอาหารเย็นเท่าปลายข้อนิ้วก้อย

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 48 กำลังราชสีห์

  • พริกไทยล่อน
  • หัวแห้วหมู
  • หัวกระชาย
  • เถาบอระเพ็ด
  • เกลือสะตุ (เอาเกลือใส่หม้อดินปิดฝาให้สนิทแล้วตั้งบนเตาถ่านประมาณ 30 นาที เกลือจะสุกเป็นผง จึงชื่อเกลือสะตุ) ตำยาทั้งหมดให้แหลกเป็นผงแล้วผสมน้ำผึ้งปั้นเม็ด หรือดองสุราก็ได้ กินก่อนอาหารเช้า ขนาดปลายนิ้วก้อย ท่านว่าจะมีพละกำลังดุจพญาราชสีห์

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 49. ยาเปลี่ยนร่าง

  • ลูกจันท์
  • ดอกจันท์
  • กระวาน
  • กานพลู
  • สมุลแว้ง
  • มหาหิงคุ์
  • ชะเอมเทศ
  • หัศคุณเทศ
  • พริกไทยล่อน

ท่านให้ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้ง กินหลังอาหารค่ำ หรือก่อนนอน กิน 1 เดือนโรคภัยจะหายสิ้น กิน 3 เดือน จะแข็งแรง ผิวพรรณสวยงาม

ยาอายุวัฒนะขนานที่ 52 ยากำลังวิเศษ

  • กำลังหนุมาน
  • กำลังวัวเถลิง
  • ขมิ้นอ้อย
  • เถาเอ็น
  • เถาบอระเพ็ด
  • หญ้าเอ็นยืด
  • ฟ้าทะลาย
  • หัวกระชาย
  • เหง้าขิงแห้ง
  • พริกไทยล่อน
  • อำพันทอง
  • โสม

ทำเป็นยาผงผสมน้ำผึ้ง รับประทานครั้งละปลายนิ้วชี้หลังอาหารเช้าหรือเย็น

53. ตำรายาเหงือกปลาหมอ

หมอเมือง สันยาสี เรื่องนี้สำคัญ โปรดอ่านให้จบ

ตำรายานี้ได้มาจากเมืองพิษณุโลก ท่านให้เป็นปริศนาว่า ถ้าใครคิดได้ให้ขุดลงไปจะได้ทอง 100 ตำลึง คนฉลาดแก้ปริศนาออกจึงไปขุดก็พบแผ่นศิลาปิดปากหลุมไว้อย่างมิดชิด เมื่อเปิดออกดูก็พบใบลานยาวประมาณ 1 คืบ เมื่อเอามาอ่านดูก็พบว่าเป็นตำรายาวิเศษ จารึกด้วยอักษรขอมโบราณ มีใจความว่า
พระฤาษีแสดงไว้เป็นทานแก่สมณชีพราหมณาจาร ย์ และมนุษย์ทั่วไปทั้งหญิงและชายเพื่อจะให้บำบัดโรค ถ้าผู้ใดได้ตำรานี้แล้วขอให้บอกต่อ ๆ กันไป จะได้อานิสงส์กัลป์ ถ้าเอาตำรายานี้ไว้ไม่เชื่อถือแล้วจะต้องไปตกนรก ตำรายานี้ชื่อ ตำราต้นเหงือกปลาหมอ ถ้าเห็นต้นเหงือกปลาหมอขึ้นตรงทาง หรืออยู่ในที่ใด ๆ ก็ดี อย่าเหยียบย่ำข้ามเลย ต้นเหงือกปลาหมอนี้มีคุณวิเศษมากมายหลายอย่างคือ

  1. ถ้าเจ็บตา ตานั้นแดง ให้เอาเหงือกปลาหมอมาตำกับหัวขิง เอาหยอดตาหายแล
  2. ถ้าเป็นเหน็บชา เท้า มือ หรือทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอมาตำทาที่เจ็บนั้นหาย
  3. ถ้างูกัด ให้เอาเหงือกปลาหมอทั้งห้ามาตำทั้งกินทั้งทา หายแล
  4. ถ้าเป็นฝีบวมขึ้นมา ให้เอาเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อยมารวมกันตำทา หายแล
  5. ถ้าเป็นริดสีดวงงอก ให้เอาเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อยตำปนกับน้ำมันหรือน้ำมูตรทา หายแล
  6. ถ้าเป็นไข้หนาวสั่นไปทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอกับขิงตำปนกันแล้วกิน หายแล
  7. ถ้าเป็นหูหนาตาโต ให้เอาเหงือกปลาหมอตำเอาน้ำกิน แล้วเอาใบส้มป่อยต้มน้ำอาบ หายแล
  8. ถ้าเป็นมะเร็งแตกทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอ พริกไทย ดีปลี สิ่งละเท่ากัน ตำเป็นผงกินกับน้ำร้อน หายแล
  9. ถ้าเป็นผื่นแดงคันขึ้นมาเกาจะ ไม่รู้สึกเจ็บ หรือที่เรียกว่าเป็นหูหนาตาโต ให้เอาเหงือกปลาหมอมาต้มกิน เอามาต้มกับใบส้มป่อยอาบด้วย หายแล
  10. ถ้าเป็นมะเร็ง ทำให้ลงจนตัวเหลือง ให้เอาเหงือกปลาหมอ กระชาย มะคำไก่ และสมอทั้งสาม ต้มกิน หายแล
  11. ถ้าหญิงมีระดูขาด หรือโลหิตแห้งแต่ 1 เดือนถึง 3 เดือนก็ดี ให้เจ็บผอมเหลืองทั่วสรรพางค์กาย ให้เอาเหงือกปลาหมอตำเป็นผงละลายน้ำมันงาหรือน้ำผึ้งกินทุกวันไป โรคนั้นหายแล
  12. ถ้าเจ็บหลัง เจ็บบั้นเอว ให้เอาเหงือกปลาหมอกับชะเอมเทศตำเป็นผงละลายน้ำกินทุกวัน หายแล
  13. ถ้าเป็นโรคริดสีดวงแห้ง หรือเป็นฝีในท้อง และซูบผอมไปทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอมาตำเป็นผงละลายน้ำกินทุกวัน หายแล
  14. ถ้าเป็นโรคริดสีดวง มือเท้าตาย ให้ร้อนไปทั้งตัว เวียนศีรษะ ตามืดมัว เจ็บทั่วตัว แลผิวตัวให้สากแห้ง อันชื่อว่าลมเพชฆาต 38 จำพวก ให้เอาเหงือกปลาหมอกับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือเล็กน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ เอาฟืน 30 ดุ้นต้ม ถ้าเดือดแล้วให้อึดใจยกลง เมื่อจะกินให้อึดใจกิน หายแล
  15. ถ้าเจ็บตามตัว เมื่อยทั่วสรรพางค์กาย ให้เอาเหงือกปลาหมอตำเอาแต่น้ำกิน
  16. ถ้าช้างแทง กระบือชน หรือตกจากที่สูง หรือต้องคมอาวุธ ให้เอาเหงือกปลาหมอตำที่แผล หายแล
  17. ถ้าจะให้เจริญอายุ ท่านให้เอาเหงือกปลาหมอ 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ตำผงละลายน้ำผึ้งรับประทานทุกวัน รับประทาน 1 เดือนจะหมดโรค จะมีสติปัญญาดี รับประทาน 2 เดือนจะเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย
รับประทาน 3 เดือน ริดสีดวง 12 จำพวกหาย รับประทาน 4 เดือน ลม 12 จำพวกไม่มีเลย ตาแดงดังตาครุฑ หูได้ยินดังราชสีห์ รับประทาน 5 เดือน โรคภายในจะหมดสิ้น
รับประทาน 6 เดือน จะเดินได้วันละพันโยชน์ ไม่เหนื่อยเลย รับประทาน 7 เดือน ผิวจะผุดผ่องสวยงามดี
รับประทาน 8 เดือน เสียงเหมือนนกการะเวก รับประทาน 9 เดือน คมหอกดาบแทงไม่เข้าเลย
ต้นเหงือกปลาหมอนี้มีคุณค่าหนักหนา เปรียบเหมือนพระอาทิตย์ก็ว่าได้ ถ้ากินอาหารหรือสิ่งใดผิดสำแดงเข้าไปจะไม่มีโทษเลย
  18. ถ้าเป็นฝีที่รักแร้และที่ลำคอก็ดี ให้เอาเหงือกปลาหมอ ขมิ้นอ้อย น้ำมันงา น้ำมูตร ตำเคล้าเข้าด้วยกันแล้วเคี่ยวเป็นน้ำมันทา หายแล
  19. ถ้าเป็นลมจับ ให้เอาเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน พริกไทย 2 ส่วน ตำผงละลายน้ำร้อนรับประทาน แก้ลม 8 จำพวกหาย
  20. ถ้าจะประสานเนื้อให้สนิท ให้เอาเหงือกปลาหมอกับหัวสามสิบเท่ากัน ตำเอาน้ำประสานแผลทาหายสนิท
  21. ถ้าตามืดมัว ให้เอาเหงือกปลาหมอ กะเพราทั้ง 2 แสมสาร ใบทองหลางใบมน บอระเพ็ด เจตมูลเพลิง สิ่งละเท่ากันตำปิดกระหม่อม แล้วเอาเหล็กเผาไฟให้ร้อน เอามาวางทับเหนือยานั้น หายแล

เรียบเรึยงใหม่จาก http://www.sanyasi.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=528384&Ntype=4

ยาอายุวัฒนะ : ไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก

เส้นเลือดหัวใจตีบ คลอเรสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง-ต่ำ เบาหวาน ปวด บวม ชา ไหล่ติด ละลายหินปูน บำรุงสายตา ฯลฯ

สรรพคุณ :

รักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โรคหัวใจ) เลือดข้นและเหนียว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ ลดไขมันในเลือด (ทั้งคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์) ไทรอยด์ อัมพฤกษ์หรืออัมพาต อันเนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบ ละลายหินปูน อาการเมื่อยชา ตึง ปวด และบวมตามร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณด้านหน้าแหละด้านหลัง ปวดเข่า ปวดหลัง ขาไม่มีเรื่ยวแรง (ซึ่งส่วนใหญ่เกดจากหินปูนที่งอกพอกกระดูกสันหลังเบียดหรือทับเส้นประสาท) โรคข้ออักเสบ เช่นข้อนิ้วมือแข็งแรงและงอไม่ลงเป็นต้น ไหล่ติด อาการหน้ามืดบ่อยๆ หมดความรู้สึกทางเพศ ทำให้หลอดเลือดสะอาด เลือดหมุนเวียนได้สะดวก สร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ไม่เกิดสิว แผลสด จะหายเร็วกว่าปกติ ใบหน้าอ่อนวัน แข็งแรงกว่าเดิม เป็นยารักษาาโรคครอบจักรวาล สำหรับผู้สูงอายุ 40 ปีขึ้นไป ไม่มีผลข้างเคียงเพราะมาจากธรรมชาติสุดแสนประหยัด สามารถทำได้เอง และ ได้ผลอย่างแท้จริง

ตัวยา :

1. น้ำส้มสายชูหมัก จากข้าวหรือผลไม้จะมีวิตามินซีสูงมาก (น้ำส้มสายชูหมักมีสีคล้ายกับสีของน้ำชาอ่อน ไม่ใสเหมือนสีของน้ำส้มสายชูกลั่น ซึ่งเป็นสารเคมี) นิยมใช้เป็นส่วนผสมของน้ำจิ้มในร้านอาหารจีน,บ้านคนจีน,โต๊ะจีน ฯลฯ ได้แก่ตรา DIAMOND เป็นน้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรดแท้ 100% มีกรดน้ำส้ม 42% (ปัจจุบันมีขายใน FOODLAND เพียงแห่งเดียว มีหลายสาขา) มีมาตราฐานการผลิตสูง น้ำส้มสีชาอ่อน สดใส เก็บไว้ได้นานประมาณ 3 ปี จึงหมดอายุ (ดูได้ที่ขวดบรรจุ)

หมายเหตุ : น้ำส้มสายชูหมักมีคุณภาพเหมาะสมต้องมีกรดน้ำส้มอยู่ประมาณร้อยละ 4.2 ถึง 4.5 และต้องทำให้เปลือกไข่นิ่มลงหลังจากดองได้ 1-2 วัน อาจสังเกตเพิ่มเติมได้ว่า ทันทีี่เริ่มดองจะมีก๊าซเล็กๆ (ฟองอากาศ) จำนวนมากผุดออกมาจากเปลืองไข่ในส่วนทีี่สัมผัสกับน้ำส้มสายชูหมัก

2. ไข่ไก่สดใหม่ 8 ฟอง ต่อน้ำส้มสายชูหมัก 1 ขวด (ถ้าทาน 2 คนใช้ไข่ไก่ 16 ฟอง ต่อน้ำส้ม 2 ขวด ไข่ไก่ขนาดเล็กเบอร์ 3 หรือ เบอร์ 4 จะเหมาะที่สุด) ห้ามแช่เย็นมาก่อน ถ้าใช้ไข่จะเน่าเสียทั้งหมด เสียทั้งน้ำส้ม ไข่ และเวลา

3. โหลแก้ว เท่านั้น ขนาดเบอร์ 8 จำนวน 2 ใบ การณีที่ต้องการทานยาต่อเนื่อง ซึ่งไข่จะไม่ซ้อนกัน เพราะหากซ้อนกันมากไข่มีโอกาสแตกได้ง่าย

การเตรียมยา :

เช็ดผิวไข่ให้ สะอาด อาจแช่น้ำหรือขัดในน้ำให้สะอาดเบาๆ เช็ดให้แห้งนำไปเรียงในโหลแก้ว เทน้ำส้มสายชูโดยให้น้ำสายส้มชูท่วมไข่ (1 โหลต่อไข่ 8 ฟอง) ทิ้งไว้นาน  4-5 วันเต็ม ยาจะได้พอดีเปลือกไข่จะยุบเหมือนแป้ง ไข่จะนิ่มทั้งฟอง ภายในหนึ่งหรือสองวัน ไม่ควรปิดฝาขวดให้แน่น เพื่อให้แก๊สที่เกิดระบายสู่บรรยากาศได้โดยง่าย หลังจากนั้นควรปิดฝาขวดโหลครบ 4-5 วัน นำไข่ออกมารับประทานวันละ 1 ฟอง จนหมดจึงทิ้งน้ำส้ม ทานติดต่อกันไปจึงได้จะได้ผลเร็วมาก

การรับประทานยา :

นำไข่ซึ่งนิ่ม 1 ฟอง เปิดน้ำประปาล้างไข่พร้อมใช้นิ้วลูบเปลือกไข่เบาๆ เปลือกไข่จะยุ่ยหลุดออกมาเหมือนแป้งจนเกือบหมดเหลือเพียงเยื่อใสๆ ซึ่งหุ้มไข่ขาวและไข่แดงอยู่ภายใน นำไข่ใส่แก้ว เจาะเยื่อหุ้มไข่ (วางไข่ในแก้ว ป้อง ไข่กระเด็น แล้วใช้ไม้จิ้มฟันเจาะเอาเยื้อหุ้มไข่ทิ้ง) นำไข่แดงและไข่ขาวมารับประทานหลังอาหารเช้า วันละ 1 ฟอง ห้ามทานตอนท้องว่าง ถ้ารับประทานยากให้ผสมน้ำผึ้งก็ได้แต่ผสมกับน้ำเชื่อมจะคล้ายบัวลอยทานง่าย ที่สุด ห้ามทำให้สุกเด็ดขาด น้ำส้มจะเสื่อมสภาพ หลังรับประทานแล้วให้ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาให้มากๆ ทั้งวันเพื่อระบายท้องเสีย หลังทานยาห้ามดื่มน้ำเย็นทันทีเพราะอาจทำให้คลื่นไส้ได้  ถ้าหายดีแล้วควรทานเป็นประจำ แต่ลดยาลงเหลืออาทิตย์ละ 2-3 ฟอง (ทุกครั้งที่ทานยาห้ามนอนทันี แต่ควรทำอะไรไปพรางก่อนเพื่อให้ยาเดิน สำคัญมาก) การทานหลังอาหารมื้อเช้าประมาณ 10-15 นาที จะดีที่สุด แล้วทานน้ำมะนาวหรือของเปรี้ยวอื่นๆ ชิ้นเล็กๆ ตบท้าย จะช่วยให้รู้สึกดีมาก มีน้อยมากที่จะพบเฉพาะบางท่านเท่านั้น ที่รับประทานยาติดต่อกันหลายวัน อาจมีอาการร้อนใน เช่น ปากเป็นเม็ด ริมฝีปากแห้ง หรือมีขี้ตา เป็นต้น ควรหยุดทานยาชั่วคราว แล้วแก้อาการร้อนในด้วยการรับประทาน ยาเขียวตราใบห่อ ชนิดระบายอ่อน ในบางกรณีอาการปวดหรือชาอาจมากขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวัน ให้อดทนรับประทานต่อไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาการจะดีขึ้น เห็นได้ชัด เนื่องจากเป็นช่วงยาออกฤทธิ์ใหม่ๆ ขับอาการของโรคออกแล้วจะรู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่กำลังป่วยอยู่

ประวัติและการวิเคราะห์การทำงานของยา :

ไข่ดองน้ำส้ม สายชูหมัก เป็นตำรายาโบราณของจีนในสมัยพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้สืบทอดต่อมาจนถึงนี้ ได้เผยแพร่ไปทั่วแถบเอเชีย และในหมู่ชาวจีน ในประเทศอเมริกา ผู้นำตำรามาเผยแพร่คนแรกได้นำยามาทานเอง และแนะนำให้เพื่อนฝูงทานด้วย ได้ผลดีเหมือนปาฏิหารย์สามารถรักษาโรคได้หลายโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคของผู้สูงอายุ ผู้เผยแพร่ทานยา ไปแล้วกว่า 100 ฟอง ได้ผลดีเหมือนอย่างหนังกำลังภายใน สังเกตจากการเดินขึ้นบันได จะไม่เหนื่อย เหมือนแต่ก่อน เพราะหัวใจจะแข็งแรงมากเป็นพิเศษ ต่อจากนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา ได้แก่

  1. ผู้มีอาการเสี่ยงต่อการช๊อก ได้แก่โรคหัวใจ (เจ็บแปลบๆ ปวดจี๊ด สาเหตุ เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเพราะเส้นเลือดฝอยตีบ) , ผู้ที่เคยผ่าตัดหัวใจ (ทำบายพาสมาแล้วแต่เป็นซ้ำอีก) , หัวใจโต , ผู้มีน้ำตาลในเลือดสูงมากถึงขึ้นต้องฉีดอินซูลิน , ผู้มีความดันโลหิตสูง เส้นเลือดฝอยมีโอกาสเปราะแตะอาจะเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ อาการเสี่ยงเหล่านี้จะหมดไปอย่างรวดเร็วในทันทีที่เริ่มทานไข่ดองน้ำส้ม สายชูหมักซึ่งจะรู้สึกได้เอง ยิ่งสามารถทานต่อเนื่องได้ทุกวัน ผู้ป่วยจะรู้สึกได้เองว่ายานี้ได้ผลดีจริงในระยะเวลาที่เร็วมาก อีกทั้งน้ำส้มสายชูหมักมีวิตามินซีสูงมากทำให้เส้นเลือดเหนียว และเปราะแตกได้ยากมาก
  2. สำหรับผู้ป่วยที่มีผลการตรวจขอแพทย์เป็นตัวเลขยืนยันชัดเจน เมื่อทานยาติดกันประมาณ 30 ฟอง แล้วไปให้แพทย์เจาะเลือด ผลประากฎว่าระดับน้ำตาล , ความดัน , ครอเรสเตอรอล ไตรกรีเซอร์ไรด์ จะลดลงใกล้เคียงปกติทุกคน ยังไม่เคยมีใครทานยานี้แล้วไม่ได้ผล เพียงแต่ต้องทำยาให้ถูกต้อง และทานยากให้ต่อเนื่องจึงจะถูกวิธี โดยผู้ป่วยทุกรายยืนยันเองได้ผลจริง และได้ผลเร็วเกินคาด
  3. โรคต่างๆ ที่เกิดจากหินปูนกดทับเส้นประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว ได้แก่ อาการเมื่อย ชา ปวด บวม ข้อและเข่าอักเสบ ไหล่ติดนิ้วมือเท้าแข็ง ตับ ไต ไทรอยด์ นอนไม่หลับ ฯลฯ รักษาได้ผลดีรวดเร็วมาก เพราะ น้ำส้มจะละลายหินปูนตามข้อต่างๆ รวมทั้งนิ่วและในไต น้ำส้มจะทำให้เส้นประสาทสั่งการจากสมองทำงานได้สมบูรณ์ด้วยการทำความสะอาด เส้นเลือดฝอยทุกเส้น ทำให้เลือดเดินได้สะดวก อวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ตับอ่อน ไต หัวใจ ม้าม ฯลฯ ก็สามารถฟื้นตัวทำงานได้ปกติ โดยอาศัยความสามารถของไข่ไก่ เป็นตัวพาน้ำส้มไปทำความสะอาดผนังหลอดเลือดในรูปของสารอาหารเพราะน้ำส้ม สายชูหมักถือเป็นสิ่งแปลกปลอมทางร่างกาย รับประทานโดยตรงร่างกายจะไม่ดูดซึม และขับออกทั้งหมดทางปัสสาวะจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์โดยตรงได้
  4. น้ำส้มสายชูหมักในไข่ไก่ จะละลายหินปูนและทำความสะอาดผนังทางหลอดเลือดทั่วร่างกาย แม้แต่ในกระดูกตั้งแต่เส้นเลือดใหญ่จนถึงเส้นเลือดฝอยอย่างละเอียดทำให้ ปัญหาในการอุดตันในเส้นเลือดฝอยที่เป็นเส้นประสาทสั่งการสำคัญๆ สะอาด เลือดไหลเวียนสะดวก ทำให้ยานี้รักษาโรคอัมพฤกษ์และอัมพาตหายและได้ผลจริง โดยหลักการที่ว่าเมื่อหลอดเลือดสะอาดจะทำให้เซลล์เนื้อเยื่อทั่วร่างกายฟื้น ตัวกลับสู่ปกติ เพราะได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากเลือดอย่างพอเพียงและทั่วถึง และดึงของเสียที่เกิดจากการใช้งานขอเซลล์กลับออกมาทำให้ปราศจากเซลล์เสียใน ร่างกายเท่ากับการป้องกันและยับยั้งการเกิดการขยายตัวของเซลล์มะเร็วโดย อัตโนมัติ ทานยานี้เป็นประจำจะช่วยป้องกันและรักษาโรคได้ทุกชนิดดังกล่าวมา นับว่าเป็นยาอายุวัฒนะที่มีสรรพคุณวิเศษต่อมวลมนุษย์อย่างแท้จริง เพราะราคาถูกทำเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องทานยาแนปัจจุบันที่เป็นสารเคมีและราคาแพงไปตลอดชีวิต แต่อาการทรงตัวไม่สามารถหายขาดได้ และยังมีผลข้างเคยีงติดตามมาเป็นอันตรายต่อตับและไตอย่างมาก
  5. ยาไข่ดองน้ำส้มสายชูหมักนี้ใช้ได้ผลดีจริง และได้ผลรวดเร็วมากอย่างน่าทึ่ง เท่าที่ทราบ ยาชนิดนี้เข้ามาเผยแพร่ในเมืองไทยมากกว่า 50 ปีแล้ว แต่ที่ไม่แพร่หลายในสังคมไทยอย่างเปิดเผยเป็นทางการเพราะ โรคดังกล่าวเป็นของผู้สูงอายุเป็นโรคเดียวกับที่แพทย์แผนปัจจุบันรักษาอยู่ ทั่วโลก เพราะผู้สูงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป มีจำนวนมากที่สุดในโลกเป็ฯกลุ่มมีรายได้มีกำลังซื้อยาสูง และจำเป็นต้องซื้อยาในราคาแพง เพราะป่วยจึงไม่มีทางเลือกทั้งคนรวยคนจน แต่คนจนมีมากกว่าจึงได้รับความเดือนร้อนทางการเงินมากกว่าซึ่งหากยานี้ได้ รับการยอมรับอย่างเปิดเผยเป็นทางการ ก็อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจการขายยาโดยทั่วไป แต่คงไม่นานนักเนื่องจากยานี้เป็นสูตรยาโบราณของคนจีน ส่วนใหญ่รู้จักในหมู่คนจีน แต่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก และยังเป็นยาที่ทำยากและทานยาก จึงไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก เพียงสนใจเป็นกลุ่มๆ เท่านั้น แต่ถือเป็นโชคดีอย่างมหาศาลหากผู้ป่วยท่านใดมีโอกาสได้ทานยาเพื่อพิสูจน์ คุณภาพยาขนานนี้ด้วยตนเองก็จะช่วยให้หายป่วยได้อย่างรวดเร็วรามปาฏิหารย์ ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างยิ่ง

พิมพ์จากแผ่นปลิวเรื่อง “ยาอายุวัฒนะไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก”

—————————————————————————————————


ขอบคุณวิดีโอจาก http://worldwideweb.youtube.com/watch?v=8PM8A4YTZhE 

—————————————————————————————————