โรเบิร์ต แพทริค ดาราดังผู้รับบทหุ่นโลหะเหลว T-1000 ในภาพยนตร์ T2 นับว่ามีชีวิตที่น่าสนใจ เพราะมีจุดเปลี่ยนและเรื่องน่าสนใจมากมายที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์ได้ตามฝัน
โรเบิร์ต แฮมมอนด์ แพทริค จูเนียร์ เกิดเมื่อ 5 พ.ย. 1958 เป็นบุตรคนโตจาก 5 คนของ โรเบิร์ต ซีเนียร์ และ นาดีน ซึ่งทำงานธนาคารทั้งคู่
เดิมทีในวัยเยาว์แพทริคไม่สนใจด้านการแสดงแต่อย่างใด ในสมัยประถมเขาเคยปฏิเสธที่จะแสดงละคร “ปีเตอร์ แพน” ของโรงเรียนอีกด้วย ก่อนจะเริ่มสนใจการแสดงอย่างจริงๆจังๆในปีแรกของการเรียนมหาวิทยาลัย เขาจึงตัดสินใจดร็อปการเรียนสาขากีฬาของเขาเพื่อหาทางเป็นนักแสดง
แต่เนื่องจากเขาไม่มีประสบการณ์และไม่เคยเรียนด้านการแสดงมาก่อน เขาจึงหางานแสดงและภาพยนตร์ไม่ได้เลย จึงต้องไปทำงานเป็นช่างทาสีอยู่ในนครคลีฟแลนด์อยู่หลายปี โดยที่เขามองไม่เห็นลู่ทางไปสู่ฝันของเขาเลยในขณะนั้น
จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 1984 แพทริคไปล่องเรือเที่ยวกับเพื่อนๆที่ทะเลสาบอีรี หนึ่งในห้าทะเลสาบใหญ่ที่อยู่ระหว่างสหรัฐและแคนาดา ปรากฎว่าระหว่างล่องเรือก็เกิดพายุพัดจนเรือล่ม แพทริคเป็นคนเดียวที่คว้าเสื้อชูชีพทัน ในขณะที่เพื่อนๆของเขาต้องเกาะซากเรือลอยคอกันอยู่ แพทริคตัดสินใจอาสาว่ายน้ำไปขอความช่วยเหลือที่ฝั่ง แต่ด้วยระยะทางถึง 3 ไมล์ร่วมกับพายุที่เกิดขึ้น ทำให้หลายครั้งแพทริคเหนื่อยจนแทบจะจมน้ำ แต่เมื่อคิดถึงเพื่อนๆก็ทำให้เขาฮึดว่ายน้ำต่อไป จนในที่สุดหลังจากว่ายน้ำอยู่นาน 3 ชั่วโมง เขาก็ถึงฝั่งและรีบไปขอความช่วยเหลือให้เพื่อนๆได้สำเร็จ
แพทริคเล่าว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเปลี่ยนชีวิตของเขาโดยกล่าวว่า
“เหตุวันนั้นทำให้ผมลุกขึ้นยืนแล้วนึกได้ว่า ถ้านายไม่รีบทำอะไรสักอย่างในชีวิตละก็ มันก็จะหายไปในที่สุด”
แพทริคตัดสินใจจะมุ่งหน้าสู่การเป็นนักแสดงอย่างจริงจังเสียที เขาจึงเก็บของย้ายจากคลีหแลนด์มาอยู่ลอส แอนเจลีส ซึ่งเป็นที่ตั้งของฮอลลิวู้ด จากนั้นจึงตระเวนหางานแสดงอย่างจริงๆจังๆ
แต่เช่นเคย ความที่เขาไม่มีประสบการณ์และไม่เคยเรียนการแสดง เขาจึงแทบหางานแสดงไม่ได้เลยในช่วงแรกๆ ในช่วงสี่ปีแรกในแอล.เอ. เขาได้รับบทเล็กๆในภาพยนตร์ต้นทุนต่ำเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น ซึ่งเงินที่ได้นั้นน้อยมาก เขาจึงต้องไปทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ
เพลงที่แพทริคชอบฟังในช่วงนั้นคือเพลง No surrender ( อย่ายอมแพ้ ) ของบรู๊ซ สปริงฟิลด์ ในช่วงแรกที่มาแอล.เอ. แพทริคไม่มีเงินแม้แต่จะจ่ายเงินค่าที่พักราคาถูก เขาจึงต้องนอนในรถของตัวเองอยู่นาน จนกระทั่งพอมีเงินบ้าง แพทริคจึงย้ายไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆในย่านของชาวเกาหลี ซึ่งจากอพาร์ตเมนต์นั้นเขาสามารถมองเห็นป้ายฮอลลิวู้ดได้ชัดเจน แพทริคเล่าว่า “ผมมักจะนั่งมองป้ายฮอลลิวู้ดอยู่เสมอและคิดว่า เอาล่ะ! นายอยู่ที่นี่แล้ว มาทำให้อะไรบางอย่างมันเกิดขึ้นเถอะ”
และในที่สุดในปี 1990 แพทริคก็ได้บทที่เด่นขึ้น โดยได้เล่นเป็นหนึ่งในตัวละครตัวร้ายในเรื่อง Die Hard 2 แพทริคเล่าความรู้สึกขณะไปแสดงในบทบาทดังกล่าวว่า
“ผมจำได้ว่าผมเดินกลับไปที่รถจากนั้นก็นั่งลงแล้วร้องไห้เบาๆ ผมจำได้ว่าผมมีความสุขจริงๆ”
ในปีนั้นแพทริคแต่งงานกับบาร์บาร่า แฟนสาว เมื่ออยู่เป็นครอบครัวก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เขาจึงยังมีปัญหาด้านการเงินถึงขั้นถังแตกทีเดียว
จนกระทั่งหลังจากเรื่อง Die Hard 2 ไม่นาน แพทริคทราบข่าวว่าเจมส์ คาเมร่อน กำลังคัดตัวนักแสดงสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ แพทริคจึงไปคัดตัวด้วย แต่ในการคัดตัวนั้น เขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้อ่านบท แต่ต้องแสดงท่าทางและบทบาทตามที่คาเมร่อนกำหนดไว้ให้คาเมร่อนและทีมงานดู ผลคือแพทริคแสดงความสามารถได้ยอดเยี่ยมจนคาเมร่อนถึงกับอุทานว่า “ว้าว! อะไรนั่น”
ส่งผลให้แพทริคชนะเลิศการคัดตัวและได้รับโทรศัพท์ให้ไปที่กองถ่ายในวันรุ่งขึ้น เขาจึงได้อ่านบทเป็นครั้งแรกจึงรู้ว่าเป็นบท T-1000 หุ่นโลหะเหลวตัวร้ายตัวเด่นในภาพยนตร์ Terminator 2 นั่นเอง เขาดีใจมาก
แพทริคเล่าว่า “ผมเดินเขาไปในออฟฟิศของจิม(คาเมร่อน) ตอนนั้นเขานั่งอยู่ที่โต๊ะโดยสวมแว่นด้วย เมื่อผมวางบทลงบนโต๊ะ เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองผม จากนั้นผมก็บอกเขาว่า ผมทำได้แน่ จิมก็ตอบผมว่า เพราะงั้นคุณถึงมาอยู่ที่นี่ไงโรเบิร์ต จากนั้นเขาก็พาผมไปทดสอบและก็ได้รับบทในที่สุด”
ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และสร้างแพทริคให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ทำให้เขากลายเป็นดาราดังและมีงานเข้ามาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แพทริคพูดว่า
“คุณสามารถล้มเหลวได้ ผมเองก็เคยล้มเหลว แต่คุณต้องศรัทธาในบางสิ่ง หากไม่แล้วละก็ คุณก็จะต้องมีชีวิตอยู่แบบที่ว่า ฉันหวังว่าฉันจะอย่างนั้น ฉันจะอย่างนี้ ซึ่งผมไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่แบบนั้น ผมมีชีวิตอยู่ในแบบที่ผมอยากจะเป็น”
หลังจากแสดง Terminator 2 แพทริคและอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา เมื่อครั้งอาร์โนลด์ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในนามพรรครีพับลิคกัน แพทริคก็ลงคะแนนเลือกอาร์โนลด์ทั้งสองสมัยแม้เขาจะสนับสนุนพรรคเดโมแครต โดยให้เหตุผลว่าชอบการทำงานของอาร์โนลด์
ขอบคุณที่มา : Kiattiyod Buranawanich