1. บรรเทาอาการเจ็บคอ
อาชีพที่ต้องใช้เสียงในการทำงาน อาจเจ็บคอบ่อย จิบน้ำขิงมะนาว Encyclopedia of Herbal Medicine บอกว่า น้ำขิงมะนาวมีคุณสมบัติบรรเทาอาการเจ็บคอ มะนาวช่วยให้ร่างกายกระตุ้นน้ำลาย ขิงช่วยลดการติดเชื้อในลำคอ
2. ดีท็อกซ์สารพิษตกค้างในร่างกาย
จิบน้ำขิงมะนาวทุกเช้าช่วยให้ร่างกายได้ดีท็อกซ์สารพิษที่ตกค้างอยู่ในตับ และช่วยให้ระบบไหลเวียนน้ำเหลืองทำงานเป็นปกติ
3. บรรเทาหวัด
น้ำขิงมะนาวช่วยป้องกันโรคหวัดได้ มะนาวมีวิตามินซีสูง ช่วยลดการสะสมเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ ความเผ็ดร้อนจากขิงช่วยให้ร่างกายขับเหงื่อมากขึ้น บรรเทาอุณหภูมิความร้อนในร่างกายให้ลดลง จิบน้ำขิงมะนาวอุ่น ๆ ทุกวันจะช่วยบรรเทาหวัด
4. ชะลอความเสื่อมของเซลล์
ขิงกับมะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระ อุดมด้วยวิตามินซี วิตามินบี ป้องกันเซลล์ผิวถูกทำร้าย มีแร่ธาตุดีๆ อาทิ ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ช่วยบำรุงกระดูก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ยังบำรุงต่อมหมวกไต
5. ช่วยระบบย่อยอาหาร
ผู้ที่อาหารไม่ย่อยเป็นประจำ ให้จิบน้ำขิงมะนาวในตอนเช้า น้ำขิงมะนาวจะช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้น เวลากินอาหารในมื้อถัดไป จะไม่รู้สึกอึดอัดท้อง ลดอาการท้องอืด
6. ช่วยลดน้ำหนัก
ผลการวิจัยจาก Clinical Biochemistry and Nutrition ประเทศญี่ปุ่น บอกว่า การจิบน้ำขิงมะนาวอย่างน้อยวันละครั้งจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเอนไซม์ Acyl-CoA oxidase ออกมามากขึ้น ดึงเอาไขมันที่ถูกสะสมไว้มาเผาผลาญเป็นพลังงาน โดยไขมันที่ถูกเผาผลาญจะขับออกในรูปของปัสสาวะ
7. ช่วยบำรุงผิวพรรณ
จิบน้ำขิงมะนาวแทนชา กาแฟ จะทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง สดใส เพราะน้ำขิงมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกสารอนุมูลอิสระทำร้าย กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอีกด้วย
8. เพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
ขิงมีรสเผ็ดร้อน ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว สดชื่นกระปรี้กระเปร่า คล้ายกับสารคาเฟอีนในกาแฟ แต่ไม่มีโทษ เช้าวันมัวซัวหดหู่ ตื่นมาไม่สดชื่น ให้จิบน้ำขิงมะนาวเพิ่มพลัง
9. ช่วยเผาผลาญไขมัน
น้ำขิงมะนาวช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกายได้สูงถึง 5% รสชาติเผ็ดร้อนของขิงช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงายได้ 20% น้ำขิงมะนาวเหมาะกับคนที่มีเวลาออกกำลังกายน้อย แต่อยากผอมเร็ว
10. ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ผู้ที่กล้ามเนื้ออ่อนล้า จากการทำงานหนัก หรือการออกกำลังกาย ให้จิบน้ำขิงมะนาวอุ่นๆ จะช่วยคืนความสดชื่นให้ร่างกายหลังเสียเหงื่อเสียพลังงาน น้ำขิงมะนาวกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดี ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้ดี
วิธีทำน้ำขิงมะนาว :
1. น้ำอุ่น 1 แก้ว
2. ควรใช้ขิงสด ฝานบางๆ ตัดชิ้นขนาด ½ นิ้ว ปริมาณ 10 กรัม แช่ในแก้วน้ำอุ่นประมาณ 3-5 นาที
3. บีบน้ำมะนาวจากลูกมะนาวสดๆ ลงไป จะฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆ แช่ร่วมลงไปอีกก็ได้
4. หากจิบยากให้เติมน้ำผึ้งได้แค่ ½ ช้อนชา ช่วยกลบรสชาติเผ็ดร้อนของขิง
5. ชงแล้วจิบทีละนิด ให้กินติดต่อกัน 1 เดือนตอนเช้าเท่านั้น ไม่ควรกินก่อนนอน เพราะขิงมีฤทธิ์คล้ายสารคาเฟอีนจะกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว กินตอนกลางคืนไม่ได้ อาจนอนไม่หลับ
*** ข้อควรระวัง!!! น้ำขิงไม่เหมาะกับใคร
1. ผู้มีภาวะอ่อนเพลียนอนน้อย ห้ามจิบน้ำขิงก่อนนอน จะทำให้นอนไม่หลับ ควรดื่มในตอนเช้าเท่านั้น
2. ผู้มีปัญหาระบบย่อยอาหาร อาจทำให้คลื่นไส้ ท้องเสียได้ เพราะขิงกระตุ้นให้เกิดกรดในกระเพาะอาหาร และลดระดับความดันโลหิต ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคเบาหวาน
2. คนที่จะเข้ารับการผ่าตัด หรือทำศัลยกรรม ไม่ควรดื่มก่อนผ่าตัด 1 สัปดาห์ เพราะขิงมีผลต่อการหยุดไหลของเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวช้า หากผ่าตัดหรือทำศัลยกรรมจะทำให้แผลหายช้าบวมและอักเสบ
4. ผู้มีปัญหาสุขภาพระบบไหลเวียนโลหิต ไม่ควรดื่มชาขิง เพราะจะยิ่งทำให้หลอดเลือดหนาตัวขึ้น อาจเกิดโรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) หรือเลือดออกง่าย แข็งตัวยาก หลอดเลือดหนาตัวขึ้น เกล็ดเลือดจับตัวเป็นลิ่ม
5. ผู้เป็นความดันโลหิตต่ำ การดื่มชาขิงจะยิ่งทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลงกว่าเดิม อาจทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เกิดอาการวูบ เป็นลม หมดสติได้
6. สตรีมีครรภ์ และมารดาให้นมบุตร แม้การดื่มชาขิงในตอนเช้าอาจช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ แต่ไม่เป็นผลดีต่อลูกในท้อง เพราะน้ำขิงมีผลต่อน้ำนม อาจทำให้เด็กแรกเกิดแพ้น้ำนมแม่ได้
7. ผู้เป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี ไม่ควรดื่มน้ำขิง เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำดีออกมา ทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินน้ำดี
ถ้าดื่มน้ำขิงยากนัก ช่วงแรกให้เติมมะนาวมากๆ จะช่วยให้ดื่มง่ายขึ้น ดื่มไปบ่อยๆ จนชิน ค่อยเพิ่มขิง ข้อควรระวัง ห้ามเติมน้ำตาล อยากหวานให้เติมน้ำผึ้งแค่ ½ ช้อนชา/1 แก้ว เท่านั้น จึงจะได้ประโยชน์จริงๆ
ขอบคุณที่มา เรื่อง,ภาพ : Facebook Page ชีวอโรคยา