เครื่องมือแก้ไขปัญหาอึไม่ออก ท้องผูก ในรายที่ไม่ได้ท้องผูกเป็นประจำ

วิธีนี้เหมาะกับคนที่ไม่ได้ท้องผูกเป็นประจำ คือ อยู่ๆ เกิดป่วย ร่างกายอ่อนแอลงบางวัน บางช่วง เลยกระทบต่อระบบขับถ่ายบ้าง เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการทานผักผลไม้ดื่มน้ำ เพราะบุคคลเหล่านี้ทำเป็นกิจวัตรไปแล้ว แต่ว่าร่างกายภายในมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง จากปัจจัยที่เจ้าตัวก็อาจจะรู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่ที่แน่ๆ คือ ท้องผูก ตื่นเช้ารู้สึกอยากจะถ่าย แต่พอไปเข้าห้องน้ำแล้วไม่ถ่ายซะงั้น หรือตื่นมาเกิดความรู้สึกเลยเช้านี้ท้องผูกแน่ๆ — ความรู้สึกแบบนี้มันจะเกิดขึ้นได้เองจริงๆ สำหรับผู้ที่ขับถ่ายเองได้เป็นประจำ 

a

เครื่องมือแก้ไขปัญหาอึไม่ออก ท้องผูก ในรายที่ไม่ได้ท้องผูกเป็นประจำนะคะ (ถ้าลืมกลับไปอ่านด้านบน)

  1. นิ้วมือ จะนิ้วชี้นิ้วเดียว หรือสองนิ้วนิ้วชี้และนิ้วกลางก็ได้ ตามถนัด
  2. น้ำมัน ถ้าเป็นน้ำมันนวดเอาเป็นแบบมีฤทธิ์ร้อนหรืออุ่น ไม่เอาฤทธิ์เย็น ที่ทาแล้วเย็นๆ นะจ๊ะ แนะนำง่ายๆ สะดวก ก็น้ำมันงา ถ้าถามว่าน้ำมันอื่นได้มั้ย นกเคยลองแค่น้ำมันงา สำหรับน้ำมันอื่นอาจจะต้องไปทดสอบกันเองนะจ๊ะ ได้ผลไง รายงานให้ฟังบ้างน้าาา อ่อ ลืมบอกไปน้ำมันงามีฤทธิ์อุ่นนะจ๊ะ นกเลยเลือกน้ำมันนี้

หมายเหต: น้ำมันในข้อ 2 จะมีไม่มี จะใช้ไม่ใช้ก็ได้ทั้งนั้น ถ้าในกรณีรู้สึกว่าจะไม่ถ่าย ถ่ายยาก ควรจะต้องพึ่งพาน้ำมันเป็นตัวกระตุ้นด้วย เพราะจะได้ผลดีกว่า

วิธีการ

  1. นำน้ำมันงา 2-3 หยด ทารอบๆ สะดือซะ
  2. จากนั้นใช้มือและนิ้วนวดๆ วนๆ รอบสะดือไปในทิศทางเดียวกัน ตามลูกศรดังรูปด้านล่าง เพื่อให้น้ำมันซึมที่ผิวหนัง
  3. พอน้ำมันพอซึมๆ แล้วก็หยุดนวด
  4. จากนั้นให้ใช้นิ้วมือข้างที่ถนัด วนรอบๆ สะดือไปตามทิศของลูกศรตามรูป วนเบาๆ อยู่แบบนั้นสัก 5-10-15 นาทีจนรู้สึกว่าอยากจะขับถ่ายก็ไปเข้าห้องน้ำ ทำธุระได้เลย

หมายเหตุ1 : ในขั้นตอนที่ 4 ไม่จำเป็นต้องออกแรงกดตอนเอานิ้ววนๆ ที่ท้อง แค่วนๆ ไปรอบๆ สะดือเรื่อยๆ โดยใช้สติให้รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังวนท้องอยู่นะ แล้วลำไส้เค้าจะค่อยเกิดการขยับตัว เราจะรู้สึกอยากจะขับถ่ายได้เอง  ที่บอกว่าต้องใช้สติจับด้วยก็เพราะว่า นกเองเคยลองทำตอนที่นั่งดูทีวีไป ตาและใจมัวแต่สนใจข่าวลืมเรื่องท้องไป ทั้งๆ ที่นิ้วก็วนๆ อยู่ปรากฎว่าวนไปก็ไม่ได้ผลค่ะ ฉะนั้น “สติ” สำคัญ

หมายเหตุ2 : สำหรับคนที่ตื่นมาแล้วรู้สึกปวดๆ ท้อง อยากจะถ่าย แต่เอ๊ะ!!! ไม่ถ่าย ให้เข้าไปนั่งในห้องน้ำเลยค่ะ กรณีของคุณไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมัน เพราะถือว่าเป็นเคสที่ง่ายกว่า ไม่ต้องใช้น้ำมันเป็นตัวกระตุ้น แค่เข้าไปนั่งในห้องน้ำ แล้วทำการเคลียร์พื้นที่ช่วงท้อง ให้สะดวกในการวนๆ นิ้วรอบสะดือ แล้วก็ทำตามขั้นตอนที่ 4 ด้านบนอย่างเดียวเลยค่ะ

คำแนะนำเพิ่มเติม: สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มหัดใช้วิธีการนี้ในการกระตุ้นการขับถ่าย อาจจะรู้สึกว่ามันยาก และใช้เวลาไปสักหน่อยนะคะ แต่ให้หัดทำทุกครั้งที่เกิดปัญหาอึไม่ออก ท้องผูกค่ะ แล้วมันต้องมีสักครั้งที่คุณรู้สึก “คลิ๊ก” ว่าเราสามารถรับรู้ได้ถึงการขยับตัวของลำไส้ได้ ด้วยปลายนิ้วไปกระตุ้นให้เค้าขยับค่ะ

แล้วถ้าคนที่ท้องผูกประจำ 2-3 วัน และเป็นบ่อยทำได้มั้ย

  • ทำได้ค่ะ แต่วิธีนี้อาจจะไม่ค่อยเห็นผลสำหรับคุณ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ยังไงตัวเองต้องแก้ไขจากสาเหตุให้ได้ก่อน แล้วเอาวิธีนี้ไปเป็นส่วนเสริมช่วยกระตุ้นในการขับถ่ายค่ะ
  • นกไม่แนะนำให้ทานยาถ่าย กาแฟ ชา หรืออะไรก็ตามที่ช่วยให้ขับถ่ายเป็นประจำ หรือทานทุกครั้งที่อึไม่ออก ท้องผูกเลย เพราะร่างกายจะเสพติดสิ่งเหล่านั้น เพราะการที่ทานอะไรเข้าไปช่วยให้ขับถ่าย ลำไส้ก็ทำงานค่ะ แต่ว่ามันทำงานจากสารบางอย่างทานเข้าไปแล้วไปกระตุ้น ถ้าวันนึงคุณไม่ได้ทานลำไส้ก็ทำงานไม่เป็น ก็เรียกได้ว่าลำไส้ขี้เกียจนั่นแหล่ะค่ะ (ไม่ทานเลย เลิกไปเลยดีกว่าแน่นอนค่ะ)
  • สำหรับการสวนฯ เพื่อให้ขับถ่าย อันนี้ก็ไม่แนะนำให้ทำเป็นประจำ ทำในกรณีที่ไม่ไหวจริงๆ ให้กระตุ้นที่ทางออก หรือทวารหนักได้เป็นครั้งคราว แต่ไม่ควรบ่อย เพราะมันก็ลักษณะคล้ายการทานยาถ่ายนั่นแหล่ะค่ะ ร่างกายเค้าจะต้องได้รับการกระตุ้นจากทางปลายประสาทก่อน ถึงอยากจะถ่าย (ถ่ายได้เอง โดยไม่สวนฯ ดีกว่าแน่นอนค่ะ)
  • ถ้าอยากให้ลำไส้ทำงานเอง ก็ต้องฝึกเค้าค่ะ ช่วงแรกของคนที่เคยทานยาถ่ายเป็นประจำ แล้วพอไม่ทาน ก็ไม่ถ่าย มันเป็นเรื่องปกติ ที่คนที่ต้องการเลิกยาถ่ายต้องเจอ แรกอาจจะค่อยๆ ลดปริมาณ ความถี่การทานยา แล้วพิจารณาดีดีว่ามีสาเหตุอื่นอีกมั้ยที่ทำให้ท้องผูก ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปค่ะ ร่างกายเราสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ค่อนข้างใช้ระยะเวลานิดนึง นกเองก็เคยเป็นค่ะ ตอนนั้นนกใช้ระยะเวลาปรับกัน 1 เดือนเลย ถ้าใครใช้ระยะเวลาประมาณนกแล้วยังไม่ได้ผล อาจจะต้องพึ่งพาคุณหมอ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงค่ะ และแนะนำให้ลองหาคุณหมอที่ให้คำแนะนำเราได้ตรงจุด ลองหาทั้งหมอปัจจุบัน หมอไทย หมอจีน ดูนะคะ เพราะทั้ง 3 หมอ เค้าก็ต้องการรักษาเราให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งนั้นแหล่ะค่ะ แต่ว่าวิธีการ คำแนะนำ การสอนคนไข้ อาจจะแตกต่างกัน ยังไงในกรณีที่ต้องพบคุณหมอ ขอให้เจอคุณหมอที่ถูกจริตกับตัวเองกันนะคะ จะได้ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุค่ะ

ตัดทอนความเรียบเรียงความ เรื่อง ภาพ จาก : NoK JiB JiiB