ไม่ต้องผ่า “เสริมอก” เต้นเพิ่มนม สธ. ค้นพบวิธีใหม่
กรมพัฒนาแพทย์แผนไทย คิดค้นวิธี “เต้นกระชับทรวงอก” แก้ปัญหาให้หญิงสาวที่ไม่พอใจขนาดหน้าอกหน้าใจของตัวเอง ทั้งเล็กและใหญ่แก้ปัญหาให้ได้หมด เผยผลศึกษาพบท่าเต้นที่ช่วยให้หน้าอกที่เล็กมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนคนที่ใหญ่อยู่แล้วก็ช่วยให้เล็กลงและกระชับ เป็นวิธีสุดประหยัดสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอผ่าตัดทำศัลยกรรมให้เปลืองเงินทอง แค่สละเวลาวันละครึ่งชั่วโมง รับประกันเห็นผลภายใน 3 เดือน เผยคนที่มาร่วมฝึกเต้นก่อนหน้านี้ เปลี่ยนขนาดเสื้อชั้นในไปแล้ว 3 ครั้ง เตรียมเปิดหลักสูตรอบรมเคล็ดลับท่าเต้น รุ่นแรก 12 ก.พ.นี้ พร้อมวิธีนวดหน้าอกตรวจมะเร็ง และวิธีเลือกซื้อเสื้อชั้นในที่ถูกต้อง
ค้นพบวิธีใหม่เพิ่มขนาด”หน้าอก”คุณผู้หญิงโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ. พ.ญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดแถลงข่าวโครงการเต้นกระชับทรวงอกว่า หลังจากที่เคยมีข่าวฮือฮาเรื่องนวดทรวงอก ซึ่งเป็นการนำภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษมาเผยแพร่ และได้ผลตามคำบอกเล่าของผู้หญิงที่เข้าร่วมโครงการ ดังนั้น สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ได้ศึกษาประสิทธิผลและผลข้างเคียงของการนวดทรวงอก เป็นเวลาระยะเวลา 1 ปี ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ในแง่ของสรีระและโครงสร้างของทรวงอกเล็กจะใหญ่ขึ้นจริง ส่วนทรวงอกใหญ่จะเล็กและกระชับมากยิ่งขึ้น เป็นเพราะถูกปรับรูปทรงให้เข้าที่ ทำให้เนินอกกระชับเต็มและอิ่มเอิบมากขึ้น ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าการนวดทรวงอกถือเป็นการกระตุ้นหน้าอก จะช่วยให้กล้ามเนื้ออกขยายตามหลักของธรรมชาติ และจากการการออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกแข็งแรงขึ้น เป็นฐานทำให้ทรวงอกตั้งขึ้น รวมถึงการใช้เสื้อชั้นในหรือยกทรงที่ถูกต้องเหมาะกับรูปร่างทรวงอก
พ.ญ.เพ็ญนภากล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงไม่ค่อยนิยมออกกำลังกาย และวัยรุ่นเลือกซื้อเสื้อชั้นในใส่กันไม่ถูกต้อง ทำให้รูปทรงของหน้าอกเปลี่ยนไปจนเสียรูปทรง ดังนั้น จึงนำความรู้ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพทรวงอกของสตรีได้ทั้งหน้าอกเล็กและหน้าอกใหญ่ เนื่องจากการออกกำลังกายดังกล่าว มีท่าเต้นประกอบหลายท่า เช่น การกระโดดขึ้นลงบนขั้นบันได การเต้นกระโดดเชือก ทาก้มตัวเขย่าช่วงบนของร่างกายให้สั่น ท่าหนีบต้นแขนไล่กล้ามเนื้อด้านข้างของเนินอก เหล่านี้เป็นต้น สำหรับคนหน้าอกใหญ่จะไม่ใช้วิธีเต้นกระโดด แต่จะใช้วิธีการบริหารกล้ามเนื้อให้กระชับ
“ท่าเต้นกระชับทรวงอกจะต้องใช้มือนวดภายหลังการออกกำลังกายแล้ว เมื่อเข้าห้องส่วนตัวแล้วจะต้องรู้วิธีการตรวจเต้านมว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ จากนั้นจึงใช้น้ำเย็นราดบริเวณเชิงอกเป็นตัวกระตุ้นทำให้สดชื่น ซึ่งเป็นเทคนิคในการกระตุ้นทรวงอกให้ตื่นตัว เพราะทฤษฎีตะวันตกมีการศึกษาว่าการนำน้ำเย็นมาราดทรวงอกจะมีผลต่อรังไข่และฮอร์โมน ซึ่งจะต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สำหรับคนหน้าอกเล็กจะต้องเต้นให้มากเพื่อให้ทรวงอกกระเพื่อม และการดันดึงเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหว ทำให้กล้ามเนื้อทรวงอกแข็งแรงจะเป็นฐานของทรวงอกดูอิ่มเอิบ ซึ่งการเต้นนั้นจะต้องไม่ใส่เสื้อชั้นใน และอยู่ในห้องส่วนตัว ตามหลักแล้วจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง โดยใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป และควรเต้นทุกวัน” พ.ญ.เพ็ญนภากล่าว
พ.ญ.เพ็ญนภากล่าวอีกว่า เพื่อให้การเต้นท่าไม่หน้าเบื่อ ทางกรมได้ประสานไปยังสถาบันราชภัฏพระนคร ออกแบบท่าเต้นต่างๆ ให้แก่วิทยากรที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ เน้นความเป็นไทยให้มากที่สุด ทั้งนี้ จะเปิดอบรมครูฝึกรุ่นแรก 14 คู่ ครูฝึกรุ่นแรกนี้จะเป็นวิทยากรให้แก่ผู้แทนเขตต่างๆ ทั้ง 12 เขต โดยเริ่มแรกตั้งเป้าสำหรับครูฝึกเขตละ 5 คู่ รวมทั้งสิ้น 120 คน ที่จะนำความรู้เป็นวิทยากรต่อไป” พ.ญ.เพ็ญนภากล่าว และว่า ชมรมต่างๆ ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการโดยจัดทีมงานเข้ามาฝึกท่าเต้น และเรียนรู้การตรวจทรวงอกด้วยตนเองได้ ทั้งนี้ การอบรมครั้งแรกกำหนดให้วันที่ 12-13 ก.พ.นี้ ห้องประชุมเบญจกูล อาคารพิพิธภัณฑ์ ในงานจะมีการบรรยายหัวข้อ เช่น การตรวจเต้านมด้วยตนเองและการปฏิบัติ ปัญหาทรวงอกสตรี การเลือกเสื้อชั้นในให้ถูกต้อง การสาธิตและกายบริหารกระชับทรวงอก
“โครงการนี้นอกจะส่งเสริมให้สตรีไทยประหยัด ไม่ต้องเสียเงินศัลยกรรมทรวงอกและส่งเสริมการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังทำให้สตรีมีเวลาตรวจทรวงอกของตัวเอง เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการค้นพบมะเร็งเต้านม” พ.ญ.เพ็ญนภากล่าว และว่า สำหรับผู้ขายเสื้อชั้นในสตรีนั้นควรเอาใจใส่ลูกค้าให้มากกว่านี้ และควรเพิ่มเคาน์เตอร์สำหรับให้คำแนะนำในการเลือกซื้อเสื้อชั้นในที่ถูกต้องกับทรวงอก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะแต่ละคนมีหน้าอกแตกต่างกัน บางคนหน้าอกห่าง บางคนหน้าอกชิด การเลือกเสื้อในไม่ถูกวิธีจะทำให้หน้าอกคล้อย ฐานจะห้อย จะต้องทำให้กระชับ ถ้าหน้าอกห่างจะทำให้หน้าอกไม่อิ่มเอิบ หน้าอกที่สวยจะต้องมีหน้าอกอิ่มและเนินอกแคบ จะดูมีเนินสวยงาม ใส่เสื้อสวย
นางกัญจนา ดีวิเศษ นักวิชาการสาธารณสุข 8 สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกล่าวว่า คนที่มีหน้าอกเล็ก หน้าอกใหญ่ หน้าอกห่าง อกคล้อย อกยาน ถ้าอกห่าง หน้าอกสองข้างไม่ชิดกันทำให้เวลาใส่เสื้อแล้วไม่สวย แต่ถ้าอกคล้อยฐานหน้าอกต่ำ อกยานจะนึกถึงถุงกาแฟ การเลือกเสื้อชั้นในควรมีฟองน้ำ เจล หรือมีโครงเพื่อดันหน้าอก ควรดึงเนื้อจากข้างอกมาอยู่ในเสื้อ ทำให้หน้าอกนูนชิดกัน อย่างไรก็ตามผลการศึกษาครั้งนี้พบว่าเมื่อออกกำลังกายไปแล้วจากการศึกษาเบื้องต้น หน้าอกจะใหญ่ขึ้น โดยคนที่ฝึกในครั้งนี้บอกว่าเปลี่ยนเสื้อชั้นในแล้วถึง 3 ครั้ง
นางกัญจนากล่าวว่า การเลือกเสื้อในเป็นสิ่งสำคัญในการพยุงหน้าอก บางคนตัวเล็กหน้าอกใหญ่ บางคนตัวใหญ่หน้าอกเล็ก จึงต้องวัดหน้าอกในการซื้อเสื้อใน ที่สำคัญคนหน้าอกเล็กไม่ควรใส่ชั้นในนอน เพราะจะดึงให้หน้าอกแบน ถ้าคนหน้าอกใหญ่ใส่เสื้อในนอนได้จะเก็บทรงได้ดี นอกจากนี้ การเลือกซื้อเสื้อในขึ้นอยู่กับการออกแบบให้เหมาะสมมากกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดแถลงข่าวครั้งนี้ ได้มีการนำกลุ่มหญิงสาวที่เป็นนักศึกษา มาร่วมสาธิตท่าเต้นกระชับทรวงอกให้ผู้ที่สนใจได้ชมด้วย
จากนสพ.ข่าวสด หน้า 1 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546 ปีที่ 12 ฉบับที่ 4457