น้ำชงสมุนไพรอื่นๆ ที่มักเรียกว่าชาเป็นการใช้คำผิดความหมาย เพราะคำว่าชานั้นมีความหมายเจาะจงหมายถึงตัวใบชาซึ่งเป็นพันธุ์พืชเฉพาะโดยตรง เพราะฉะนั้นน้ำชงหรือสกัดอื่นใดๆ จากพืชชนิดอื่นถ้าว่าตามความหมายกันจริงๆ แล้วไม่ควรเรียกว่าเป็นชา แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นที่เข้าใจของคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ไปแล้ว ในที่นี้ขอนำข้อมูลเท่าที่ค้นพบและหาข้อมูลมาได้อย่างคร่าวๆ มารวมไว้ ณ ที่นี้…
blog.etcpool.com
ชากวาวเครือแดง
ชากวาวเครือแดง บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ
ชากาฝากมะม่วง
ชากาฝากมะม่วง กาฝากมะม่วง มีสรรพคุณแก้ปวดศีรษะ รักษาโรคความดันสูง เบาหวาน การทดสอบด้านพิษในสุนัข และหนูโดยให้ยาในขนาดสูงๆไม่พบพิษ
ชากำลังเสือโคร่ง
ชากำลังเสือโคร่ง เป็นชาที่มีรสชาดดีมาก หวานชุ่มคอ ทำให้กระชุ่ม กระชวย กระปรี้กระเปร่า จิตใจแจ่มใสได้ดีมาก กำลังเสือโคร่ง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณบำรุงกำลัง ช่วยขับลมในลำไส้ บำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง แก้ปวดเมื่อยตามร่างกายดีนัก ช่วยบำรุงธาตุ และเป็นยาอายุวัฒนะ
ชารางจืด
ชารางจืด รางจืดมีสรรพคุณถอนพิษ แก้ไข ถอนพิษยาเบื่อเมา แก้ร้อนในกระหายน้ำ ประจำเดือนไม่ปกติ รางจืดยังช่วยขจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย มีการศึกษาพบว่าสามารถขจัดสารพิษยาฆ่าแมลงที่ตกค้างในร่างกายที่ได้รับจาก อากาศ มลภาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหาร มีการศึกษาพบว่ามีการปนเปื้อนสารพิษอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด เช่น สารบอแรกซ์ในเนื้อหมู ไก่ ยาฆ่าแมลง ในผัก ผลไม้ ที่เราได้รับอยู่ทุกวัน เป็นต้นฯลฯ.
การศึกษาเกี่ยวกับพิษของรางจืดในหนู ปรากฏว่าไม่พบพิษแม้ได้รับในปริมาณมากเป็นเวลานานๆ จึงเป็นสมุนไพรที่ปลอดภัย
ชาสมุนไพรมะขามแขก
ชาสมุนไพรมะขามแขก เป็นยาระบาย มะขามแขกมีสาร antraquinone หลายชนิด ได้แก่ เซนโนไซด์ เอ บี ซี และ ดี อีโมดิน และ เรอิน เป็นต้น ออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำใส้ใหญ่ จึงช่วยให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น
ชาหญ้าหนวดแมว
ชาหญ้าหนวดแมว สรรพคุณ ขับปัสสาวะ แก้นิ้ว ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือด การทดลองทางคลีนิค พบว่าหญ้าหนวดแมวมีสรรพคุณเพิ่มปริมาณปัสสาวะและเร่งการขับถ่ายคลอไรด์ และยูเรียที่อยู่ในปัสสาวะ มีฤทธิ์เร่งการขับ oxalate และ citrate ออกมาในปัสสาวะจึงเป็นผลดีต่อการลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วชนิด uric acid และโรคเกาต์ การรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน ไม่พบพิษ แต่ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจเพราะหญ้าหนวดแมวมีสารโปแตสเซียมอยู่ใน ปริมาณสูง ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้
ชาอินทนินน้ำ
ชาอินทนินน้ำ อินทนิลน้ำมีสรรพคุณ ลดน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน ขับปัสสาวะ
ชาเกสรดอกคำฝอย
ชาเกสรดอกคำฝอย มีสรรพคุณ ขับระดู บำรุงประสาท บำรุงหัวใจ ขับเหงื่อ ระงับประสาท แก้ไขข้ออ้กเสบ แก้หวัดน้ำมูกไหล ระงับอาการปวดรอบเดือน ลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงโลหิตและน้ำเหลืองให้ปกติ
มีการทดลองกับอาสาสมัครที่มีระดับคลอเลสเตรอลสูง ให้ดื่มชาดอกคำฝอยเป็นประจำ พบว่าเมื่อดื่มไประยะหนึ่ง(ประมาณ 3 เดือน) สามารถลดระดับคลอเลสเตอรอลลงให้อยู่ในระดับปกติ หรือใกล้เคียงปกติได้
ชาเกสรดอกไม้ทั้งห้า
ชาเกสรดอกไม้ทั้งห้า เกสรดอกไม้ทั้งห้า มีสรรพคุณ บำรุงหัวใจ ให้ชุ่มชื่น แก้ใจสั่น อ่อนเพลีย ทำให้กระชุ่มกระชวย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย บรรเทาอาการภูมิแพ้
ชาเกสรดอกไม้ทั้งห้า เป็นชาที่มีรดชาดดียิ่งนัก มีกลิ่นหอมของเกสรดอกไม้ มีความหวานจากเกสรดอกไม้ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทยโบราณที่น่าทึ่งและน่ายกย่องเป็นอย่างยิ่งที่มีการนำ เกสรดอก 5 ชนิดมาทำยารักษาโรค เมื่อได้ดื่มเพียงจิบแรกจะรู้สึกได้ถึงความปลอดโปร่ง สบาย ชุ่มชื่นหัวใจ อาการเครียด ปวดแน่นหน้าอก ใจสั่น วิงเวียน อ่อนเพลีย เหนื่อยหน่าย จะหายไปและเมื่อดื่มต่อเนื่องระยะหนึ่ง จะสามารถบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ได้ด้วย ซึ่งเป็นกลไกในการปรับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายจากคุณค่าของสมุนไพร
ชาเจียวกู้หลาน
ชาเจียวกู้หลาน เป็นพืชเถา ตระกูลหญ้าซึ่งในประเทศจีนใช้เป็นอาหารและยา ด้วยสรรพคุณที่สามารถบำรุงร่างกาย และรักษาโรคได้อย่างโสมคนหรือเหนือกว่า จึงได้รับฉายาเป็น โสมเจ็ดใบ (Seven leave ginseng) โดยในการใช้จะไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงเหมือนโสมคน
ปัจจุบันมีการศึกษาเกี่ยวกับสรรพคุณของเจียวกู่หลานอย่างกว้างขวาง พบว่าเจียวกู้หลาน มีสรรพคุณหลายอย่างกล่าวคือ
– มีสาร Saponins มากกว่า 80 ชนิด ซึ่งสารเหล่านี้พบในโสมคน(Ginseng)ที่ถือเป็นยาครอบจักรวาล บ้าง แตาในเจียวกู้หลานมรสารมากกว่าโสมคน จึงไม่น่าแปลกใจที่ เจียวกู้หลานจะสามารถรักษาโรคได้หลายชนิด
– สามารถลดระดับคลอเลสเตอรอล และกำจัดไขมันที่เกาะตัวในเส้นเลือดได้ดี ซึ่งคุณสมบัตินี้ชัดเจนมาก
– รักษาโรคความดันสูง ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ปกติ
– เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง (Strenghten immune system)
– ช่วยเพิ่มอัตราการไหลเวียนของโลหิตและเมตาบอลิซึมของร่างกายและสมอง จึงช่วยเพิ่มความจำ ความฉลาด
– ยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
– ลดน้ำหนักและไขมันสะสมในร่างกาย โดยกระบวนการยับยั้งการเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลเป็นไขมันสะสม และกระตุ้นเมตาบอลิซึมของร่างกาย
– ช่วยขับปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะใสสะอาดและบำรุงไต
– เพิ่มปริมาณน้ำอสุจิ จึงช่วยในเรื่องของสมรรถภาพและการมีบุตร
– ป้องกันโรคมะเร็ง จากการทดลองในหนู
– ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันและเป็นผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน
– ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และคลอเลสเตอรอล
– เป็นสาร antioxidant ที่แรง จึงช่วยชลอความชรา ต้านมะเร็งและความเสื่อมของร่างกายและอวัยวะต่างๆ
– สร้างความต้านทานของร่างกายต่อโรค
จากผลการศึกษาแสดงถึงสรรพคุณอันน่ามหัศจรรย์ของเจียวกู้หลาน ในประเทศจีนมีการนำเจียวกู้หลาน มาทำเป็นชาชงดื่มมายาวนานแล้ว โดยเชื่อว่าทำให้ร่างกายแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดี ไม่เจ็บป่วย สมรรถภาพร่างกายและทางเพศดี
ชาเม็ดชุมเห็ดไทย
ชาเม็ดชุมเห็ดไทย ช่วยให้นอนหลับ บำรุงประสาท คลายเครียด นอกจากคุณสมบัติช่วยทำให้นอนหลับแล้ว ในเมล็ดชุมเห็ดไทยยังมีสารจำพวกแอนทราควิโนน กลัยโคไซด์ ซึ่งมีผลให้ช่วยระบายอ่อนๆจึงเป็นชาสมุนไพรที่ทำให้กินได้ ถ่ายคล่อง นอนหลับสบาย ซึ่งเป็นจุดสำคัญของการมีสุขภาพที่แข็งแรง
ชาเหงือกปลาหมอ
ชาเหงือกปลาหมอ เหงือกปลาหมอ มีสรรพคุณ รักษาโรคภูมิแพ้ หวัดเรื้อรัง หืดหอบ น้ำเหลืองเสีย ชลอความชรา เป็นยาอายุวัฒนะ ต้นเหงือกปลาหมอ บางท่านที่ทานอาจมีอาการแพ้ ทำให้มีอาการวิงเวียน เมื่อเริ่มทานควรชงทานแบบจางๆ หากไม่มีอาการแพ้ก็ค่อยๆทานตามปกติต่อไป แต่หากมีอาการให้หยุดทาน และห้ามใช้ในผู้มีอายุต่ำกว่า 25 ปี เพราะเหงือกปลาหมอเป็นยาร้อน
วิธีใช้ ชงกับน้ำร้อน รับประทานขณะอุ่น(หากทานเพื่อรักษาโรค ควรทานต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน)
ชาใบหม่อน
ชาใบหม่อน เป็นชาสมุนไพรที่มีคุณค่ามากต่อร่างกาย มีบันทึกการใช้ชาใบหม่อนในตำรับจีนโบราณ กล่าวถึงการดื่มชาใบหม่อนตากแห้งที่เรียกว่า “Shinsen Tea” เป็นประจำจะมีผลดีในการรักษาโรคไอ ไอกรน ป้องกันโรคความดันสูงและมีคุณสมบัติเป็นยาบำรุง
ปัจจุบัน มีการศึกษาเกี่ยวกับสรรพคุณของใบหม่อนในหลายประเทศ พบสรรพคุณของใบหม่อนมากมายเช่น
– พบว่าในใบหม่อนมีสาร GABA (gamma amino butyric acid) ช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งพบว่าใบหม่อน 100 กรัม มีสาร GABA ถึง 230 มก.
– สาร Phytosterol ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ป้องกันการจับตัวของลิ่มเลือด จึงช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ในใบหม่อน 100 กรัม มีสาร sitosterol ซึ่งเป็นสาร Phytosterol ชนิดหนึ่งอยู่ 46 มก. มากกว่าในชาเขียว 3.3 เท่า
– มีสาร Deoxynojirimycin ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งมีอยู่ 0.1% ในใบหม่อนแห้ง ซึ่งสารนี้มีอยู่เฉพาะในใบหม่อนเท่านั้น ออกฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ที่ย่อยสลายน้ำตาลจากลำไส้ ทำให้สารนี้มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นประโยชน์สำหรับป้องกันโรคเบาหวาน และสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว
มีรายงานว่าสารสกัดจากใบหม่อนมีฤทธิ์ยับยั้งการก่อกลายพันธ์(ต้านมะเร็ง) ในสัตง์ทดลองได้ ตามตำราสมุนไพรจีน มีบันทึกใช้ใบหม่อนต้มดื่มรักษาโรคความดันโลหิตสูง และใช้ดื่มเป็นประจำแทนน้ำชา เพื่อบำรุงร่างกาย
ใบหม่อนยังมีแร่ธาตุโดยรวมสูง กล่าวคือมีแคลเซียม โปแตสเซียม โซเดียม แมกเนเซียม เหล็ก สังกะสี วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี สูงมาก รวมทั้งยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 18 ชนิด
ใบหม่อนมีคาเฟอีนต่ำมาก คือ พบเพียง 0.01% หรือไม่พบเลย จึงเป็นเครื่องดืมที่สามารถดื่มได้ทุกเวลา ชาใบหม่อนจึงเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่ามากและ ควรรับประทานเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดี ป้องกันโรคร้ายหลายชนิด ใบหม่อนยังเป็นพืชที่ต้องปลูกโดยไร้สารพิษ เพราะตามปกติจะไม่มีโรคและแมลงรบกวน แมลงที่จะกินใบหม่อนก็คือ ตัวไหมเท่านั้น ซึ่งตัวไหมหากกินใบหม่อนที่มีสารพิษ ก็จะตาย ดังนั้นใบหม่อนจึงต้องปลูกแบบไร้สารพิษตามธรรมชาติ
ชาใบหม่อน อีสเทอร์น เฮิร์บ คัดสรรใบหม่อนพันธ์ดี ซึ่งพัฒนาพันธ์โดยกรมวิชาการเกษตร(บร.60) ปลูกแบบไรสารพิษ ผ่านกระบวนการผลิตด้วยเครื่องจักรทันสมัย ให้รสชาดที่หอม ชุ่มคอ ชวนดื่ม เหมือนกับชาชั้นดี แต่ยังคงคุณค่าสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรไว้อย่างครบถ้วน จึงเป็นเครื่องดืมบำรุงสุขภาพได้ทุกวันสำหรับทุกคนในครอบครัว
ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหม่อน
ชาจากใบหม่อน เป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพในประเทศญี่ปุ่น คนไทยใช้ใบหม่อนประกอบอาหาร ชาวจีนใช้เป็นพืชสมุนไพร การนำใบหม่อนไปผ่านกระบวนการทำชาเขียวหรือชาฝรั่งที่โรงงานทำชา จะได้ชาเชียว (ชาใบ) และชาฝรั่ง (ชาผง) ที่มีคุณภาพผ่นเกณฑ์มาตฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมใบชาและชาผงของศูนย์ทดสอบ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม การทำชาเขียวจะได้ใบชาประมาณ 18.83% ที่ความชื้น 5.3% ในขณะที่การทำชาฝรั่งจะได้ผงชาประมาณ 23.34% ความชื้น 3.6% ใบหม่อนสามารถทำชาเขียว ชาฝรั่ง และชาจีนแบบครัวเรือนได้ แต่ลักษณะของใบชาเขียวจากโรงงานจะม้วนตัวดีกว่าชาเขียวแบบครัวเรือน น้ำชาที่ได้จะมีสีเขียวอ่อนเช่นเดียวกัน ชาฝรั่งจากโรงงานจะได้น้ำชาสีน้ำตาลเข้มมากกว่าชาฝรั่งแบบครัวเรือนเล็กน้อย การทำชาจีนและชาฝรั่งแบบครัวเรือนจะใช้การคั่วและการอบเท่านั้น ส่วนการทำชาเขียวแบบครัวเรือนจะต้องลวกน้ำร้อนและจุ่มน้ำเย็นเพื่อรักษาสี เขียวของคลอโรฟีล การทำชาแบบครัวเรือนจะต้องระวังเรื่องความชื้นหลังจากการคั่วควรเก็บในภาชนะ ที่ป้องกันความชื้นได้ หรือนำไปอบที่ 80 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง ก่อนเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด ชาเขียว ชาฝรั่ง และชาจีนแบบครัวเรือน ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเช่นกันในใบชาหม่อนจะพบแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม โปแตสเซี่ยม สูง แต่วิตามิน เอ พบเพียง (เฉลี่ย) 29.50 IU/100 ขณะที่ชาเขียวจากใบหม่อนในญี่ปุ่นพบถึง 4,100 IU/100 กรัม ชาหม่อนมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายทั้ง 10 ชนิด และพบกรดอะมิโนถึง 18 ชนิด ดังนั้น การทำชาใบหม่อนเพื่อใช้เป็นเครื่องดื่ม จึงมีความเป็นไปได้ทั้งระดับโรงงานและครัวเรือน
ต่อมาได้ทำการวิเคราะห์ปริมาณเควอซิติน เคมเฟอรอล และฤทธิ์การต้านออกซิเดซันโดยรวมของใบหม่อนอบแห้ง ซึ่งปลูกที่ศูนย์วิจัยหม่อนไหมนครราชสีมา ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี สถานีทดลองหม่อนไหมตาก และศูนย์วิจัยหม่อนไหมแพร่ในส่วนยอดใบอ่อน และใบแก่ของพันธุ์นครราชสีมา 60 บุรีรัมย์ 60 คุณไพ และน้อย พบว่า สถานที่ปลูกลำดับใบ และพันธุ์ เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลร่วมกันทำให้ปริมาณสารออกฤิทธิ์เควอซิติน เคมเฟอรอล และโพลีฟีนอลโดยรวม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ใบหม่อนซึ่งปลูกที่ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี ส่วนยอดของพันธุ์นครราชสีมา 60 มีปริมาณเควอซิตินและเคมเฟอรอลสูงสุด (2,069.8 และ 869.4 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) และส่วนยอดของพันธุ์บุรีรัมย์ 60 มีโพลีฟีนอลโดยรวมสูงสุด (6,310.0 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม โดยแสดงค่าเป็น Gallic acid equivalent)
ในชาหม่อน 5 ชนิด พบว่าชาเขียวใบหม่อนที่ผลิตแบบอุตสาหกรรมโรงงานหรือแบบครัวเรือน (นึ่ง) มีปริมาณเควอซิติน เคมเฟอรอล และโพลีฟีนอลโดยรวมสูงสุด การใช้น้ำร้อนชงชาพบว่ามีเวลา 6 และ 60 นาที ปริมาณเควอซิตินและเคมเฟอรอลในน้ำชาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ส่วนปริมาณโพลีฟีนอลโดยรวมในน้ำชาที่เวลา 6, 12, 30 และ 60 นาที ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ฤทธิ์การต้านออกซิเดชันโดยรวมของน้ำชาเขียวใบหม่อนซึ่งผลิตแบบอุตสาหกรรมโรงงานหรือแบบครัวเรือน (นึ่ง) ที่ชงด้วยน้ำร้อนมีค่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับชาชนิดเดียวกันที่ไม่ได้ชงด้วยน้ำร้อน ก่อนที่จะนำมาผ่านขั้นตอนการสกัดด้วยการสกัดวิธีการเดียวกัน และสูงกว่าส่วนยอด ใบอ่อน และใบแก่ ของใบหม่อนอบแห้งพันธุ์เดียวกัน ผลการวิจัยนี้ยืนยันได้ว่าใบหม่อน ชาใบหม่อน และน้ำชาใบหม่อนเป็นแหล่งที่ดีของเควอซิติน เคมเฟอรอล และโพลีฟีนอลโดยรวม ซึ่งมีบทบาทในการต้านออกซิเดชัน เป็นผลดีต่อสุขภาพของมนุษย์ในการห้องกันโรคเรื้อรังต่าง ๆ
การศึกษาต้นทุนการผลิตพบว่าต้นทุนการผลิตใบหม่อนสดเฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.40 บาท และต้นทุนการผลิตชาในแต่ละกรณีจะแตกต่างกันไป ส่วนต้นทุนที่สูงอย่างชัดเจน คือ ค่าบรรจุซองพร้อมชงในกรณีที่ผลิตชาฝรั่ง ซึ่งจะสูงประมาณ 2 เท่า ของต้นทุนอย่างอื่น ๆ รวมกัน ทำให้ต้นทุนการผลิตชาฝรั่งเป็น 579.30 บาทต่อกิโลกรัมชา หรือ 0.87 บาทต่อซองในระดับโรงงาน และ 650.79 บาทต่อกิโลกรัมชา หรือ 0.98 บาทต่อซองในระดับครัวเรือน ในขณะที่การผลิตเป็นชาเขียวใบหม่อน โดยไม่รวมบรรจุภัณฑ์เป็น 205.15 บาท ต่อกิโลกรัมชาในระดับโรงงาน และ 227.68 บาทต่อกิโลกรัมชาในระดับครัวเรือน แต่ถ้าหากวิเคราะห์ในกรณีที่ผู้ผลิตในระดับครัวเรือนใช้ใบหม่อนและแรงงานของ ตนเอง จะทำให้ต้นทุนลดลงเหลือ 202.94 บาทต่อกิโลกรัมชาเนื่องจากต้นทุนการผลิตใบหม่อนสดเองจะต่ำกว่าการซื้อใบ หม่อนสด (รวมค่าขนส่ง) มาก แต่ในทางปฏิบัติจะทำได้เพียงปริมาณจำกัด โดยรวมแล้วหากกำหนดให้ราคาผลผลิตชาใบหม่อนจากการผลิตในระดับโรงงานและครัว เรือนเท่ากันแล้ว จะเห็นได้ว่าการผลิตชาในระดับอุตสาหกรรมขนาดย่อมจะมีความคุ้มทุนมากว่า
น้ำชงมะละกอดิบ
ขอขอบคุณความคิดเห็นของคุณ Suwi จาก เว็บพลังจิต
ขออนุญาติคัดลอกมาไว้เพื่อเก็บในคลังความรู้
หญ้าหนวดแมว, ชาจีน(อย่างดี), และ น้ำต้มมะละกอดิบ
สามอย่างชงรวมกัน สามารถแก้อาการ ปวดเข่า ปวดข้อ และปวดกล้ามเนื้อ หลังจากทำงานหนักมา (อันเกิดจากกรดยูริคคั่งค้าง) แต่มี้ผู้นำสูตรนี้ไปดัดแปลง เหลือเพียงชาจีน และน้ำต้มมะละกอดิบ
ใช้ ลดความอ้วน ความจริงแล้ว สูตรนี้ใช้ลดความอ้วนได้ระดับหนึ่ง แต่มีผลข้างเคียง ชาจีนจะไปลดกรดยูริค และลด/ขจัด โคเลสเตอร์ลอน น้ำต้มมะละกอดิบ จะชะล้างของเสียออกจากข้อ และกล้ามเนื้อ และแถมย่อยโปรตีนจากกล้ามเนื้อด้วย (ทำให้กล้ามเนื้อเล็กลง/อ่อนแรง เมื่อกินไปนานๆ)ของเสียที่ขับออกมาจะเข้าไปอยู่ในกระแสเลือดก่อน และถูกไต ขับออกมาทางปัสสาวะ อาจมีบางส่วนถูกขับออกทางอุจจาระ ในสูตรยาเต็มสูตรของ suwi จะมีหญ้าหนวดแมวอยู่ด้วย จุดมุ่งหมายเพื่อให้ไตเร่งขับปัสสาวะเร็วขึ้น ของเสียต่างๆที่ถูกขับเข้ากระแสเลือดจะถูกชะล้างออกจากร่างกายโดยเร็ว
ทีนี้สูตรที่ถูกดัดแลง ตัดเอาหญ้าหนวดแมวออก การขับปัสสาวะจะช้าลง ของเสียที่ถูกเก็บออกมาจากส่วนต่างๆของร่างกาย จะอยู่ในกระแสโลหิตนานขึ้น โลหิตไปที่ใหน ของเสียก็จะผ่านไปอวัยวะต่างในร่างนานขึ้นและมีบางส่วนตกค้างอยู่ เมื่อนานไป อาจเกิดโรคอื่นเป็นของแถมได้
มีผู้มาปรึกษาเรื่องนี้ ว่ากินยาลดความอ้วนขนานนี้ทีไรเป็นปวดหัว ตะครั่รตะครอเนื้อตัวทุกที ได้อธิบายเหตุผลให้เขาฟังแล้ว และถ้ายังอยากกินต่อก็ให้ใส่หญ้าหนวดแมวเข้าไปหน่อยหนึ่ง อาการต่างๆจะดีขึ้น
อ้อ..ขอเพิ่มเติมอีกนิด
ปกติการกินยารักษาโรค เราจะกินเพียง 7 วัน 10 วัน หรือ 2 อาทิตย์ พอโรคหาย(สนิท) ก็เลิกกิน
ยาทุกตัว แม้แต่สมุนไพร ก็มีผลข้างเคียงทั้งสิ้น ไม่ควรกินนาน
ยกเว้น สมุนไพรที่เป็นยาอายุวัฒนะ พวกนี้จะกินได้นาน 2-3 เดือนขึ้นไป
และยังมีข้อแนะนำ กินไปสัก 2-3 เดือน แล้วหยุดกิน สักอาทิตย์ แล้วจึงกินต่อ
ที่มา :
http://www.walai.msu.ac.th/webboard/question.asp?QID=48
http://www.moac.go.th/builder/mu/images/product_cocoon1.html
http://board.palungjit.com/f9/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD-%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%8A%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2-%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B9%89-177970.html