ยาอายุวัฒนะขนานที่ 16
ยาขนานนี้เป็นของสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ท่านบันทึกไว้แต่ปี 2409
เป็นตำรายาที่ขึ้นชื่อมาก ส่วนมากหมอยาในกรุงเทพ ฯ และภาคกลางล้วนรู้จักและปรุงกินกันมาก แต่ท่านว่าอายุหนุ่มน้อยกินไม่สู้ดี เพราะธาตุไฟแรงจะเผาร่างกายให้ผ่ายผอม เหมาะสำหรับคนอ้วนต้องการลดความอ้วนกินยานี้น่าจะดี ตัวยามีดังนี้
- เปลือกทิ้งถ่อน
- เปลือกตะโกนา
- เถาบอระเพ็ด
- เมล็ดข่อย
- หัวแห้วหมู
- หัวกระชาย
- พริกไทยล่อน
ยาทั้งหมดสัดส่วนเท่ากัน ตากแห้งบดผงผสมน้ำผึ้งกินก่อนนอน วันละ 1-2 เม็ด ท่านว่ากินได้ 1 เดือนตัว
พยาธิ์ลำไส้ออกมาหมด หายจากอาการปวดเมื่อยอ่อนเพลียโดยไม่ต้องอาศัยหมอนวดบีบ การหมุนเวียนโลหิตดี เลือดลมไหลสะดวก เรื่องอย่างว่าก็สู้บ่ยั่นเหมือนกัน ถ้าเป็นพระทำฉันให้งดกระชายเสีย เพราะเป็นยาบำรุงกามารมณ์
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 20
- หัวขิงแห้ง
- หัวไพล
- หัวกะทือ
- หัวกระชาย
- หัวแห้วหมู
- รากแจง
- หัวยาข้าวเย็นเหนือ
- หัวยาข้าวเย็นใต้
- เนื้อมะขามเปียก
- พริกไทยล่อน
- เกลือแกง
เอายาทั้งหมดนี้มาตำเข้าด้วยกัน แล้วใส่โหลหรือกระปุกเก็บไว้รับประทานก่อนอาหาร หรือก่อนนอน เป็นยาขับถ่ายสิ่งโสโครกออกจากร่างกาย ถ้ารับประทานประจำโรคภัยหายหมด ผิวพรรณวรรณะก็ดีงาม กลิ่นตัวกลิ่นปากหรืออื่น ๆ จะหายไปหมด
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 21 บำรุงร่างกาย
ยานี้ชื่อยากำลังราชสีห์ ตัวยามี 5 อย่างด้วยกันคือ
- เถาบอระเพ็ด
- หัวแห้วหมู
- หัวกระชาย
- พริกไทยล่อน
- เกลือสะตุ
เอาตัวยาทั้งหมดมาตำเข้าด้วยกันแล้ว ใส่โหล ใส่สุราให้ท่วมยา ปิดให้สนิทแล้วนำไปฝังโคลนที่ชายน้ำในวันแรม 14 ค่ำ พอขึ้น 15 ค่ำของอีกเดือนหนึ่งจึงไปขุดขึ้นมารับประทาน ก่อนอาหารเย็นครั้งละ 1 ถ้วยตะไล จะแข็งแรง ปราศจากโรคภัยทั้งปวง จะมีกำลังดุจหนุมาน คำว่าแก่จะไม่มี ท่านว่าผู้มีบุญวาสนาเท่านั้นจึงได้รับประทาน แต่เรื่องการหมักโคลนนั้นมีเหตุผลทีต้องการความเย็น สมัยนี้ใส่ตู้เย็นย่อมเหมาะสมกว่า
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 30
- พริกไทย 7 เม็ด
- พริกขี้หนูแห้ง 7 เม็ด
- ขิง 7 แว่น
- ข่า 7 แว่น
- ข้าวสาร 7 เม็ด
- น้ำมันมะกอก 7 หยด
- น้ำมันจันท์ 7 หยด 8. กล้วยน้ำว้าสุก 7 ลูก
เอามาตำให้แหลกจนเข้ากันดีแล้วผสมน้ำผึ้ง ให้ทำวันแรม 7 ค่ำ กินวันละ ลูกพุทรา กำลังดีมาก
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 31
เอารากกะทกรกมาต้มกิน เวลาไปขุดรากกะทกรกให้ไปขุดวันอังคาร พอถึง 3 อังคารแล้วให้ต้มกิน ระหว่างที่ต้มหม้อที่ 1 นั้นก็ไปขุดในวันอังคารอีก 3 อังคาร รวมเป็น 6 อังคาร พอถึงวันอังคารที่ 7 ให้ต้มกิน รวมเป็น 2 หม้อ ต้มกินต่างน้ำชาก็ได้ เวลาขุดรากกะทกรกนั้นไม่ว่าจะได้มากหรือน้อยท่านให้คอนกลับบ้านแล้วเอามา แขวนไว้จนครบ 3 อังคาร และ 7 อังคาร ยานี้ต้องทำของใครของมัน จะให้คนอื่นทำให้ไม่ได้
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 33
- ต้นพญามุติทั้งห้า หนัก 8 ตำลึง
- สมอไทย 1 ตำลึง
- พริกไทยล่อน 1 ตำลึง
- ดอกดีปลี 1 ตำลึง
- เหง้าขิงแห้ง 1 ตำลึง
ตำเป็นผงผสมน้ำผึ้ง และน้ำนมวัว วิธีทำต้องเอาน้ำนมวัวและน้ำผึ้งมาต้มเคี่ยวจนงวดพอสมควรก็เอายาลงผสมคนให้เข้ากันดีแล้วก็ยกลง พอเย็นแล้วจึงปั้นเท่าเม็ดพุทรา รับประทานเช้าเย็นครั้งละ 1 เม็ด รับประทานได้ 2 เดือนโรคลมจะหาย หูจะได้ยินถนัด ตาจะสว่าง ผิวพรรณจะสวยงาม ร่างกายจะแข็งแรง
ร.ต.อ.เปี่ยมเล่าว่า เดิมที่ได้ตำรายานี้มา หลวงศรีเทพบาล บ้านอยู่สะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี ได้เล่าว่ามี
พระรูปหนึ่งธุดงค์มาแต่เมืองตะวันตก มาพักอยู่ที่วัดเสาวคนธ์ กรุงเทพ ฯ บอกว่าอายุ 70 ปี แต่ดูร่างกายท่านยังหนุ่มมาก หลวงศรีเทพบาลจึงขอตำรายาที่ท่านฉัน เมื่อได้มาแล้วก็ยังไม่ได้ทำ เพราะไม่รู้จักต้นพญามุติ จนมาถึง พ.ศ.2459 มีพระรูปหนึ่งได้นำต้นพระยามุติมาให้ดู และได้ทำยารับประทานตั้งแต่นั้นมา
ร.ต.อ.เปี่ยมเล่าว่าท่านได้ทำยาขนานนี้รับประทานได้ 2-3 เดือน ลมออกหูก็หาย หูได้ยินชัดเจนดี ตาที่มัวก็กลับอ่านหนังสือได้ หน้าที่เคยเป็นฝ้าด่างดำก็หายไป ร่างกายก็แข็งแรง หลับสนิทดี
ท่านบอกลักษณะต้นพระยามุติว่า ใบของมันคล้ายใบตั้งอ้อ ดอกคล้าย ๆ ตุ้มหู หรือคล้ายดอกผักกาดดอกแบนสีเหลือง ถ้าขึ้นตรงพื้นดินสมบูรณ์ต้นจะสูงถึง 2 ศอกเศษ ชอบขึ้นตามหาดทราย หรือดินปนทราย ใช้ทำแกงเลียงกินได้ บางคนเรียกต้นออ มีมากในเดือน ยี่-3
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 34 บำรุงร่างกาย
- ขมิ้นอ้อย
- ผักเสี้ยนผี
- โคกกระสุน
- หัวแห้วหมู
ตากแห้งบดเป็นผงผสมน้ำผึ้ง กินก่อนนอนวันละ 1 เม็ดพุทรา ทำให้เจริญอาหาร แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 35.บำรุงร่างกาย
ให้เอารากข่อยมาต้มกินแทนน้ำ ช่วงแรกที่กินผิวจะดำคล้ำและลอกออกมาคล้ายงูลอกคราบ กินต่อไปเรื่อย ๆ รูปร่างจะเปลี่ยนแปลง ผิวพรรณผุดผ่องอ้วนท้วนสมบูรณ์ ผู้กินยานี้อายุได้ 160 ปี
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 36. บำรุงสายตา
เอาหัวแห้วหมูมาล้างให้สะอาด แล้วคั่วไฟ แล้วทุบให้แตก นำมาชงดื่มแบบน้ำชา แก้ปวดเมื่อยอ่อนเพลีย ร่างกายแข็งแรง ตาสว่างดุจคนหนุ่ม ฟันทนแข็งแรง ร่างกายกลับเป็นหนุ่มสาว
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 37 บำรุงร่างกาย
- กำลังวัวเถลิง หนัก 3 บาท
- เปลือกตะโกนา หนัก 3 บาท
- เปลือกทิ้งถ่อน 3 บาท
- เขากวางอ่อน 3 บาท
- แสมทะเล 3 บาท
- เมล็ดข่อย 3 บาท
- รากส้มกุ้งใหญ่ 2 บาท
- รากส้มกุ้งน้อย 2 บาท
- หัวบัวขม 2 บาท
- ฝางเสน 2 บาท
เอาตัวยาทั้งหมดมาตำพอแหลก แล้วห่อผ้าขาวดองสุราไว้ 7 วัน กินวันละ 1 จอก หลังอาทิตย์ตกดิน
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 38
- เมล็ดข่อย
- พริกไทยล่อน
- หัวแห้วหมู
- หัวบัวขม
- หัวกระชายแก่
- ผักเสี้ยนผี
- โคกกระสุน
- เนื้อสมอทั้ง 3 อย่างละ 10
เอามาทุบดองสุรา กินก่อนอาหารเย็น กินประจำอายุยืนถึง 100 ปี แข็งแรงทำงานหนักได้ดุจคนหนุ่ม
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 41 ยาผิวงาม
เอาน้ำมะนาวเปรี้ยวจัด 1 ถ้วยตะไล ผสมกับน้ำสุก 1 แก้ว ผสมเกลือป่น 1 ช้อนกาแฟ คนดีแล้วดื่มจนหมดแก้ว ก่อนอาหารเช้าสัก 30 นาที กินติดต่อกัน 15 วัน และหยุด 10 วันจึงเริ่มดื่มใหม่ติดต่อกัน 3 วัน และหยุด 1 เดือนจึงเริ่มดื่มอีก วันละ 1 จอกแก้วยาดอง ท่านว่ารับรองผิวขาวเป็นนวลใย ไร้ไฝฝ้า
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 44 ยาลายแทง
ตำรานี้ได้จากลายแทงขุมทรัพย์เมืองพิษณุโลก ท่านเขียนเป็นปริศนาไว้ บอกว่าถ้าใครคิดได้ให้ขุดลงไปจะได้ทองคำ 1 ตุ่ม คนมีปัญญาคิดได้จึงขุดลงไปก็พบตุ่มใบหนึ่งพร้อมกับใบลานจารึกตำรายาขนานนี้ ท่านเขียนไว้ให้ทานแก่สมณชีพราหมณ์และหญิงชายทั้งปวง ถ้าผู้ใดพบตำรานี้ขอให้บอกต่อ ๆ กันไปจะได้ผลานิสงส์มาก ตำรามีว่า
- รากช้าพลู 2 ตำลึง
- รากมะแว้งต้น 2 ตำลึง
- รากมะแว้งเครือ 2 ตำลึง
- รากมะเขือขื่น 2 ตำลึง
- เถาบอระเพ็ด 2 ตำลึง
- รากเจตมูลเพลิง 1 ตำลึง
ให้เอายาทั้งหมดมาตำเป็นผงแล้วผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำอ้อยแดงก็ได้ ใส่หม้อผนึกไว้ให้ดี เอาทองแดงผูกคอ
หม้อหนัก 1 บาท แล้งฝังข้าวเปลือกไว้ 5 วัน แล้วรับประทานวันละ 1 ช้อนหอย สามารถแก้โรคทั้งปวง ผมหงอกจะกลับดำ อายุยืนถึง 100 ปี มีกำลังเจ็ดช้างสาร สำเนียงเสียงใส รูปงาม หาโรคมิได้ ถ้ารับประทานติดต่อกัน 6 เดือน สารพัดสัตว์ที่มีพิษกัดไม่เข้าเลย ถ้าเอาน้ำมูตร(ปัสสาวะ)ใส่ตุ่มไว้ เอาทองแดงแผ่ให้บางแช่ในน้ำมูตร(ที่เกิดจากกินยานี้) นาน 3 เดือน ทองแดงจะกลายเป็นทองคำธรรมชาติไม่มีขี้เลย ถ้าไม่จริงดังกล่าวขอให้ตัวข้าพเจ้าผู้ไว้ตำรานี้ตกจตุราบายเทอญ.
ยาตำรับนี้ตรงกับตำรับที่ 2 ที่เป็นตำราเหนือ ความจริงในตำรับนั้นท่านบอกเป็นภาษาเหนือ แต่ผู้เขียนได้แปลให้เป็นภาษาไทยแล้ว ก็ตรงกับตำรับนี้ เป็นตำรับยาที่เกิดและถ่ายทอดในสมัยเดียวกัน เพราะเมืองพิษณุโลกและเชียงใหม่ เชียงราย เชียงแสน รวมไปถึงพระสงฆ์ทางพม่าได้ไปมาหาสู่กันไม่ขาด พระสงฆ์ก็ไป ๆ มา ๆ เพราะทางเชียงใหม่เลื่อมใสพระสงฆ์ทางสุโขทัย จึงนิมนต์พระทางสุโขทัยไปเผยแพร่พระศาสนา และเป็นสังฆราชาอยู่ทางโน้นในสมัยพระเจ้ากือนา ทางพิษณุโลกก็ได้สุโขทัยเป็นหลักเช่นกัน ตำรายามักเผยแพร่ไปกับพระสงฆ์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชุมชนทุกหนทุกแห่ง และเป็นศูนย์กลางของการศึกษาด้วยเช่นกัน คนทางเหนือไม่สู้นิยมทำลายแทงเหมือนชาวพิษณุโลก มักเขียนใส่ใบลานเก็บใส่ตู้ไว้ตามวัดต่าง ๆ และบนหิ้งบูชาในบ้านของตนเองรวมกับคาถาอาคมอื่น ๆ จึงมักพบตำราลายแทงในเมืองพิษณุโลกและกำแพงเพชรเป็นส่วนมาก
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 45 แก้มือเท้าชา
ท่านให้เอาบอระเพ็ดพุงช้าง (สบู่เลือดเถา) มาหั่นตากแดดพอหมาด แล้วแช่กับน้ำตาลทรายแดงหรือสุราก็ได้ รับประทานเช้า-เย็น แก้มือเท้าชา แก้ปวดเมื่อยอ่อนเพลีย
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 46
ท่านให้เอากล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี ปอกเปลือกออกแล้วใส่โหล เอาน้ำผึ้งใส่ให้ท่วมกล้วย ดองไว้ 15 วัน แล้วรับประทานก่อนอาหารวันละ 1 ลูก บำรุงกำลัง บำรุงประสาท แก้โรคเบาหวาน นอนหลับสนิทดี
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 47
- หัวแห้วหมู
- รากแจง
- สมอไทย
- สมอพิเภก
- สมอเทศ
- สมอดีงู
- กระเทียม
- ดอกดีปลี
- ขิงแห้ง
- หัวข่าเล็ก
- เถาบอระเพ็ด
- มะขามป้อม
เอาสิ่งละเท่ากัน ต้องตากแห้งก่อนแล้วทำเป็นผง ผสมน้ำผึ้ง รับประทานหลังอาหารเย็น ครั้งละ ปลายนิ้วก้อย เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้โรคลม ริดสีดวงทวาร ริดสีดวงลำไส้ ทำให้เจริญอาหาร นอนหลับสบาย ร่ายกายแข็งแรง
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 48 ปรับธาตุให้สมบูรณ์
ยาขนานนี้นอกจากเป็นยาอายุวัฒนะแล้วยังเป็นยารักษามะเร็งและโรคเรื้อรังได้อีกด้วย
- รากแจง 1 ขีด
- หัวไพล 1 ขีด
- ขิงแห้ง 1 ขีด
- หัวกะทือ 1 ขีด
- หัวกระชาย 1 ขีด
- พริกไทยล่อน 1 ขีด
- ข้าวเย็นเหนือ 1 ขีด
- ข้าวเย็นใต้ 1 ขีด
- หัวแห้วหมู 1 ขีด
- เกลือทะเล 2 ขีด
ทำเป็นผง ส่วนเกลือนั้นให้คั่วเสียก่อนแล้วนำมาตำให้ละเอียด จึงเอาทั้งหมดผสมกัน แล้วผสมน้ำผึ้ง รับประทานหลังอาหารเย็นเท่าปลายข้อนิ้วก้อย
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 48 กำลังราชสีห์
- พริกไทยล่อน
- หัวแห้วหมู
- หัวกระชาย
- เถาบอระเพ็ด
- เกลือสะตุ (เอาเกลือใส่หม้อดินปิดฝาให้สนิทแล้วตั้งบนเตาถ่านประมาณ 30 นาที เกลือจะสุกเป็นผง จึงชื่อเกลือสะตุ) ตำยาทั้งหมดให้แหลกเป็นผงแล้วผสมน้ำผึ้งปั้นเม็ด หรือดองสุราก็ได้ กินก่อนอาหารเช้า ขนาดปลายนิ้วก้อย ท่านว่าจะมีพละกำลังดุจพญาราชสีห์
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 49. ยาเปลี่ยนร่าง
- ลูกจันท์
- ดอกจันท์
- กระวาน
- กานพลู
- สมุลแว้ง
- มหาหิงคุ์
- ชะเอมเทศ
- หัศคุณเทศ
- พริกไทยล่อน
ท่านให้ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้ง กินหลังอาหารค่ำ หรือก่อนนอน กิน 1 เดือนโรคภัยจะหายสิ้น กิน 3 เดือน จะแข็งแรง ผิวพรรณสวยงาม
ยาอายุวัฒนะขนานที่ 52 ยากำลังวิเศษ
- กำลังหนุมาน
- กำลังวัวเถลิง
- ขมิ้นอ้อย
- เถาเอ็น
- เถาบอระเพ็ด
- หญ้าเอ็นยืด
- ฟ้าทะลาย
- หัวกระชาย
- เหง้าขิงแห้ง
- พริกไทยล่อน
- อำพันทอง
- โสม
ทำเป็นยาผงผสมน้ำผึ้ง รับประทานครั้งละปลายนิ้วชี้หลังอาหารเช้าหรือเย็น
53. ตำรายาเหงือกปลาหมอ
หมอเมือง สันยาสี เรื่องนี้สำคัญ โปรดอ่านให้จบ
ตำรายานี้ได้มาจากเมืองพิษณุโลก ท่านให้เป็นปริศนาว่า ถ้าใครคิดได้ให้ขุดลงไปจะได้ทอง 100 ตำลึง คนฉลาดแก้ปริศนาออกจึงไปขุดก็พบแผ่นศิลาปิดปากหลุมไว้อย่างมิดชิด เมื่อเปิดออกดูก็พบใบลานยาวประมาณ 1 คืบ เมื่อเอามาอ่านดูก็พบว่าเป็นตำรายาวิเศษ จารึกด้วยอักษรขอมโบราณ มีใจความว่า
พระฤาษีแสดงไว้เป็นทานแก่สมณชีพราหมณาจาร ย์ และมนุษย์ทั่วไปทั้งหญิงและชายเพื่อจะให้บำบัดโรค ถ้าผู้ใดได้ตำรานี้แล้วขอให้บอกต่อ ๆ กันไป จะได้อานิสงส์กัลป์ ถ้าเอาตำรายานี้ไว้ไม่เชื่อถือแล้วจะต้องไปตกนรก ตำรายานี้ชื่อ ตำราต้นเหงือกปลาหมอ ถ้าเห็นต้นเหงือกปลาหมอขึ้นตรงทาง หรืออยู่ในที่ใด ๆ ก็ดี อย่าเหยียบย่ำข้ามเลย ต้นเหงือกปลาหมอนี้มีคุณวิเศษมากมายหลายอย่างคือ
- ถ้าเจ็บตา ตานั้นแดง ให้เอาเหงือกปลาหมอมาตำกับหัวขิง เอาหยอดตาหายแล
- ถ้าเป็นเหน็บชา เท้า มือ หรือทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอมาตำทาที่เจ็บนั้นหาย
- ถ้างูกัด ให้เอาเหงือกปลาหมอทั้งห้ามาตำทั้งกินทั้งทา หายแล
- ถ้าเป็นฝีบวมขึ้นมา ให้เอาเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อยมารวมกันตำทา หายแล
- ถ้าเป็นริดสีดวงงอก ให้เอาเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อยตำปนกับน้ำมันหรือน้ำมูตรทา หายแล
- ถ้าเป็นไข้หนาวสั่นไปทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอกับขิงตำปนกันแล้วกิน หายแล
- ถ้าเป็นหูหนาตาโต ให้เอาเหงือกปลาหมอตำเอาน้ำกิน แล้วเอาใบส้มป่อยต้มน้ำอาบ หายแล
- ถ้าเป็นมะเร็งแตกทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอ พริกไทย ดีปลี สิ่งละเท่ากัน ตำเป็นผงกินกับน้ำร้อน หายแล
- ถ้าเป็นผื่นแดงคันขึ้นมาเกาจะ ไม่รู้สึกเจ็บ หรือที่เรียกว่าเป็นหูหนาตาโต ให้เอาเหงือกปลาหมอมาต้มกิน เอามาต้มกับใบส้มป่อยอาบด้วย หายแล
- ถ้าเป็นมะเร็ง ทำให้ลงจนตัวเหลือง ให้เอาเหงือกปลาหมอ กระชาย มะคำไก่ และสมอทั้งสาม ต้มกิน หายแล
- ถ้าหญิงมีระดูขาด หรือโลหิตแห้งแต่ 1 เดือนถึง 3 เดือนก็ดี ให้เจ็บผอมเหลืองทั่วสรรพางค์กาย ให้เอาเหงือกปลาหมอตำเป็นผงละลายน้ำมันงาหรือน้ำผึ้งกินทุกวันไป โรคนั้นหายแล
- ถ้าเจ็บหลัง เจ็บบั้นเอว ให้เอาเหงือกปลาหมอกับชะเอมเทศตำเป็นผงละลายน้ำกินทุกวัน หายแล
- ถ้าเป็นโรคริดสีดวงแห้ง หรือเป็นฝีในท้อง และซูบผอมไปทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอมาตำเป็นผงละลายน้ำกินทุกวัน หายแล
- ถ้าเป็นโรคริดสีดวง มือเท้าตาย ให้ร้อนไปทั้งตัว เวียนศีรษะ ตามืดมัว เจ็บทั่วตัว แลผิวตัวให้สากแห้ง อันชื่อว่าลมเพชฆาต 38 จำพวก ให้เอาเหงือกปลาหมอกับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือเล็กน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ เอาฟืน 30 ดุ้นต้ม ถ้าเดือดแล้วให้อึดใจยกลง เมื่อจะกินให้อึดใจกิน หายแล
- ถ้าเจ็บตามตัว เมื่อยทั่วสรรพางค์กาย ให้เอาเหงือกปลาหมอตำเอาแต่น้ำกิน
- ถ้าช้างแทง กระบือชน หรือตกจากที่สูง หรือต้องคมอาวุธ ให้เอาเหงือกปลาหมอตำที่แผล หายแล
- ถ้าจะให้เจริญอายุ ท่านให้เอาเหงือกปลาหมอ 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ตำผงละลายน้ำผึ้งรับประทานทุกวัน รับประทาน 1 เดือนจะหมดโรค จะมีสติปัญญาดี รับประทาน 2 เดือนจะเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย รับประทาน 3 เดือน ริดสีดวง 12 จำพวกหาย รับประทาน 4 เดือน ลม 12 จำพวกไม่มีเลย ตาแดงดังตาครุฑ หูได้ยินดังราชสีห์ รับประทาน 5 เดือน โรคภายในจะหมดสิ้น รับประทาน 6 เดือน จะเดินได้วันละพันโยชน์ ไม่เหนื่อยเลย รับประทาน 7 เดือน ผิวจะผุดผ่องสวยงามดี รับประทาน 8 เดือน เสียงเหมือนนกการะเวก รับประทาน 9 เดือน คมหอกดาบแทงไม่เข้าเลย ต้นเหงือกปลาหมอนี้มีคุณค่าหนักหนา เปรียบเหมือนพระอาทิตย์ก็ว่าได้ ถ้ากินอาหารหรือสิ่งใดผิดสำแดงเข้าไปจะไม่มีโทษเลย
- ถ้าเป็นฝีที่รักแร้และที่ลำคอก็ดี ให้เอาเหงือกปลาหมอ ขมิ้นอ้อย น้ำมันงา น้ำมูตร ตำเคล้าเข้าด้วยกันแล้วเคี่ยวเป็นน้ำมันทา หายแล
- ถ้าเป็นลมจับ ให้เอาเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน พริกไทย 2 ส่วน ตำผงละลายน้ำร้อนรับประทาน แก้ลม 8 จำพวกหาย
- ถ้าจะประสานเนื้อให้สนิท ให้เอาเหงือกปลาหมอกับหัวสามสิบเท่ากัน ตำเอาน้ำประสานแผลทาหายสนิท
- ถ้าตามืดมัว ให้เอาเหงือกปลาหมอ กะเพราทั้ง 2 แสมสาร ใบทองหลางใบมน บอระเพ็ด เจตมูลเพลิง สิ่งละเท่ากันตำปิดกระหม่อม แล้วเอาเหล็กเผาไฟให้ร้อน เอามาวางทับเหนือยานั้น หายแล
เรียบเรึยงใหม่จาก http://www.sanyasi.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=528384&Ntype=4