การดื่มชาดอกไม้มีประโยชน์แทบ จะไม่แตกต่างจากการดื่มชาชนิดอื่นเลย ที่พอสังเกตได้เห็นจะเป็นเพียงแค่เรื่องของรสชาติที่เบา กว่าชาชนิดอื่นเท่านั้น แม้ปัจจุบันยังไม่พบหลักฐานใดที่ระบุได้อย่างชัดเจนว่ามนุษย์เรา เริ่มดื่มชาดอกไม้ตั้งแต่เมื่อไร แต่หากเป็นการใช้ประโยชน์จากดอกไม้ในการรักษาบำบัดโรค และผ่อนคลายอารมณ์ มีหลักฐานชัดเจนที่สามารถยืนยันได้ว่ามนุษย์รู้จักประโยชน์ของ ดอกไม้มากกว่าเพียงแค่เป็นสิ่งสวยงามมาตั้งแต่ยุคโบราณ ไม่ว่าจะเป็นที่จีนเมื่อประมาณ 5,000 ปีก่อน อียิปต์โบราณ รวมถึงยุคของฮิปโปเครติส ปราชญ์ชาวกรีกผู้เฟื่องฟูนั่นทีเดียว
โดย ทั่วไปแล้วชาดอกไม้แห้งมักจะอยู่ในรูป Loose Form คือ ไม่ได้บรรจุในซองแช่ที่ เป็นแพ็กเล็กๆ สำเร็จรูป แต่เป็นลักษณะของกลีบดอกไม้แห้งหรือดอกไม้ทั้งดอกในกรณีที่ดอกไม้ชนิดนั้นมี ขนาดเล็ก ทั้งนี้ก็เพราะการปล่อยให้กลีบดอกไม้สัมผัสกับน้ำร้อนโดยตรงจะทำให้เกิด ปฏิกิริยาต่อกันได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งสามารถปลดปล่อยสารเฉพาะตัวในดอกไม้ชนิดนั้นๆ ได้มากกว่า และแน่นอนว่าถ้าหากมองในแง่ของคุณประโยชน์แล้วก็ย่อมมีมากกว่าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของการดื่มชาดอกไม้ไม่ได้มีเพียงแค่ช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังช่วยบำบัดรักษาอาการของโรคต่างๆ ได้ดังตาราง
อาการของโรคที่ช่วยบำบัดได้ |
ชนิดของดอกไม้ที่นำมาชงชา |
หวัดและไข้หวัด | คาร์เนชั่น ดาวเรือง ไฮยาซินท์ ผักตบชวา |
อาหารไม่ย่อย | เข็ม ดาวเรือง บัว ลั่นทม แก้ว |
ปัญหาผิวพรรณหม่นหมอง | กุหลาบ ขจร ชบา บัว |
นอนไม่หลับ | คาโมมายล์ ซ่อนกลิ่น พวงชมพู มะลิ |
ไอและเจ็บคอ | พิกุล แก้ว ชบา |
ปวดเมื่อย | พิกุล แก้ว |
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ | ดอกคำฝอย บานไม่รู้โรย |
ปวดท้องช่วงรอบเดือน | ชบา |
เคล็ดไม่ลับสำหรับชาดอกไม้
- น้ำกรองหรือน้ำแร่เหมาะสำหรับการชงชาดอกไม้ที่สุด ไม่ควรใช้น้ำปะปาเนื่องจากมีความเป็นด่างมากเกินไป
- ควรเก็บชาดอกไม้ไว้ในโหลแก้วสุญญากาศและเก็บให้พ้นจากแสงสว่าง ความร้อน หรือที่ที่มีความชื้นสูง
- เติมน้ำผึ้งแทนน้ำตาลหากต้องการความหวาน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ความหอมและรสชาติของชาดอกไม้เปลี่ยนไป
ปัจจุบัน ดอกไม้แห้งสำหรับชงชาหาซื้อไม่ยาก เพราะมักจะมีขายอยู่ทั่วไปตามร้านขายชา แต่หากต้องการคุณภาพหรือความหลากหลายของชนิดดอกไม้คงต้องเลือกสารร้านชากัน เสียหน่อย ขณะเดียวกันก็ย่อมมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย แต่อันที่จริงกสารซื้อดอกไม้มาปลูหเองน่าจะไม่ใช่เรื่องยากลำบาก แถมยังเป็นงานอดิเรกที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายอีกต่างหาก (เว้นเสียแต่ว่าจะไม่มีเวลาดูแลต้นไม้ให้ดีจนมันเหี่ยวเฉา)
ใน กรณีของคนที่ปลูกเอง เมื่อเก็บดอกไม้มาแล้วก็ล้างให้สะอาด (หากดอกไม้มีขนาดใหญ่ให้เด็ดเป็นกลีบๆ) แล้วผึ่งในตะแกร่งให้แห้งตากไว้ในที่โปร่งที่มีอากาศระบายถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องทั่วถึงแต่ต้องระวังเรื่องอุณหภูมิสักหน่อยไม่ให้ร้อนจัดเกินไป ทิ้งไว้ประมาณ 8-10 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปใส่ขวดโหลเก็บไว้
ส่วน การชงชาดอกไม้นั้นไม่มีสัดส่วนของดอกไม้แห้งต่อน้ำร้อนในอัตราส่วนที่แน่นอน ตายตัว เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่ลักษณะการชงชาดอกไม้มากกว่า นั่นคือ ควรใส่ดอกไม้ลงในถ้วยก่อนแล้วจึงเทน้ำร้อนลงผสม และไม่ควรใช้น้ำที่กำลังเดือด เพราะอาจทำให้มียางของดอกไม้ออกมาจนทำให้มีกลิ่นเหม็นเขียวได้ หลังจากเทน้ำร้อนแล้วไม่ควรแช่ดอกไม้เกิน 5 นาที เพราะดอกไม้บางชนิดจะส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากนั้นก็ถึงเวลาสำคัญก็คือ การลิ้มรสสุนทรีย์ของชาดอกไม้
แหล่งข้อมูล
- http://tonight.walkrally.net
- www.manager.co.th
ที่มา : ส่วนหนึ่งจากหนังสือกูร์เมท์ แอนด์ ควีซีน เดือนกันยายน 2548 หน้าที่ 122-123