"ชาละอู" วิถีทางล้างพิษแบบฤาษี

“ชาละอู” วิถีทางล้างพิษแบบฤาษี

ภาวะความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน  บวกกับการใช้ชีวิตท่ามกลางสารพิษที่มีอยู่รอบตัว  ทำให้อัตราการเจ็บป่วยของคนไทยในปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นทวีคูณ  เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีตที่นักบวชสายฤาษีที่อยู่ท่ามกลางป่าเขาในดินแดน อันห่างไกล  วิทยาการทางการแพทย์ส่วนใหญ่ที่มักจะใช้ภูมิปัญญาความรู้ด้านวิถีทาง ธรรมชาติ  มาบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายขาดได้อย่างไม่น่าเชื่อ

อาจารย์บูรพา  ผดุงไทย  ถือเป็นคนหนึ่งที่พยายามค้นหาวิธีการรักษาสุขภาพตนเองตามแนวทางธรรมชาติ บำบัดที่ไม่ต้องพึ่งยาและสารเคมีในการรักษาโรค  จนได้ค้นพบศาสตร์แนวใหม่สำหรับการรักษาโรคของเหล่าฤาษี  จึงเป็นที่มาของสูตรชาล้างพิษ  สมุนไพรใบหม่อนละอูผสมเจี่ยวกู้หลาน  ที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันก่อน  ณ  หอประชุมพุทธคยา  อาคารอัมรินทร์พลาซ่า


โดยอาจารย์บูรพา  เล่าว่า  “ตั้งแต่เราเกิดมาต่างก็สะสมสารพิษอยู่ในร่างกายกันทุกคน  เมื่อใดก็ตามที่สารพิษในร่างกายมันเกินความพอดี  ก็จะสำแดงโรคภัยไข้เจ็บออกมาให้เห็น  สำหรับอาจารย์เองเคยป่วยเป็นโรคเบาหวานที่รักษาด้วยวิธีทางเคมี  และให้ยามาสารพัดรูปแบบแต่ก็ไม่ดีขึ้น  มิหนำซ้ำโรคร้ายมันก็ทวีความรุนแรง  เพราะสารเคมีที่เข้าไปรักษาอาการเบา หวานให้หายมันได้สะสมอยู่ในร่างกายและส่งผลกระทบต่ออวัยวะส่วนอื่นๆ  ซึ่งทำให้รู้ได้เลยว่าเรารักษาไม่ตรงจุด  การรักษาแบบองค์รวมจึงเป็นศาสตร์ที่ดีที่สุดที่จะช่วยบำบัดโรคร้ายให้หายขาด ได้”

ด้วยจุดนี้เองทำให้อาจารย์บูรพาหยุดแนวทางการรักษาแบบเคมี  แล้วหันหน้าเข้าหาธรรมชาติอย่างแท้จริง  “ตัวเองจะเป็นคนที่แสวงหาแนวทางรักษาตัวเองมาหลายวิธี  ทั้งการปฏิบัติสมาธิ  การฝึกหายใจตามแบบฤาษี  การขับถ่ายสารพิษที่เรียกว่า  ดีท็อกซ์  ทั้งทางระบบของเหลวและระบบขับถ่าย  จนค้นพบความพิเศษของชาละอู  ที่มีส่วนช่วยในการขับสารพิษทางระบบปัสสาวะได้จนเป็นที่น่าพอใจ  ซึ่งอาจารย์ได้ไปพบชาละอู  เป็นชาใบหม่อนที่ปลูกบนแร่เหล็ก  ซึ่งสายพันธุ์นี้พบบนบ่อดินลูกรัง  มีเพียง  10  ไร่เท่านั้น  เป็นชาตามแบบที่ฤาษีเขาใช้ดื่มเพื่อล้างพิษ”

“ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับการล้างพิษแบบดีท็อกซ์ในปัจจุบัน  จะเป็นเพียงการขับถ่ายออกมาทางอุจจาระได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น  แต่สารพิษที่อยู่ในลำไส้มันเป็นสารพิษแฝงที่แปรสภาพแล้ว  แต่จะไปกักอยู่ในตับและไต  ซึ่งการขับถ่ายสามารถทำได้ทางเดียวคือปัสสาวะเท่านั้น  และจะเห็นผลในเรื่องการช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด  สารพิษที่อยู่ในร่างกายจะถูกขับถ่ายทางปัสสาวะได้ดีหากดื่มชาละอูสายพันธุ์ นี้เข้าไป”

จากคนที่มีน้ำหนักตัวเกือบจะ  90  กิโลกรัม  แต่สามารถลดลงเหลือเพียง  69  กิโลกรัม  ตรงนี้บอกได้เลยว่าไม่ยากและไม่ง่ายหากตั้งใจจะทำ  โดยอาจารย์บูรพาแนะนำวิธีการดื่มชาล้างพิษแบบมีศิลปะว่า  “การดื่มชาล้างพิษ  ควรดื่มตอนที่น้ำชายังอุ่นๆ  เนื่องจากร่างกายคนเราต้องการรับอุณภูมิเข้ามาอยู่ที่  38-40  องศาเซลเซียส  หากดื่มชาในอุณหภูมิเย็นๆ  จะทำให้ร่างกายดึงธาตุไฟมาใช้เยอะ  เพื่อทำให้อุณหภูมิของน้ำชาที่ดื่มเข้าไปเท่ากับ  38  องศาเซลเซียส”

“การเริ่มต้นล้างพิษให้กับตัวเองเป็นเรื่องสำคัญมาก  และควรเริ่มต้นทำตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ป่วย  อย่าปล่อยให้สารพิษมันสะสมอยู่ในร่างกายนานจนเกินไป  เมื่อเราล้างพิษออกจากร่างกายหมดแล้ว  ก็ถึงเวลาที่เราต้องล้างพิษที่เกาะในจิตใจและความคิดของเราออกด้วย  อย่าลืมว่าร่างกายของเราเป็นผู้ผลิตสารพิษ  จึงต้องทำสมาธิเพื่อสกัดมะเร็งของความคิดออก  เพราะความเครียดที่อยู่ในจิต  มันเป็นตัวทำให้ร่างกายหลั่งสารพิษออกมา  ทำได้โดยการนั่งสมาธิ  แล้วมะเร็งร้ายในความคิดนั่นคือความเครียดที่เกิดจาก  กิเลส  โทสะ  และโมหะ  ก็จะหายไปจากชีวิตของเราทุกคน”  อาจารย์บูรพา  กล่าวทิ้งท้าย

ส่วนใครอยากลองวิถีล้างพิษอย่างฤาษี  ก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่  ดีซี  คอนซัลแทนส์  แอนด์  มาร์เก็ตติ้ง  คอมมูนิเคชั่นส์  โทร.0-2610-2367  หรือ  0-2517-4224.

http://www.thaipost.net/x-cite/090309/1369